• กนง.เผยศก.เดือนก.ย.61 ยังสดใส แต่หั่นจีดีพีคู่ค้าปีหน้าเหลือ 3.5%

    4 ตุลาคม 2561 | Economic News

กนง.เผยศก.เดือนก.ย.61 ยังเติบโต พร้อมคงคาดการณ์จีดีพีไทยปี 61 ที่ 4.4% ขณะที่ปี 62 คาด 4.2% จากการบริโภคเอกชน-ท่องเที่ยวคาดไม่ต่ำกว่า 40.6 ล้านคนในปีหน้า ด้านศก.ต่างประเทศเสี่ยงสูง  ฟากจีดีพีประเทศคู่ค้าปีหน้าคาดเหลือแค่ 3.5% จาก 3.6% เหตุเจอมาตรการกีดกันทางการค้าเล่นงาน    
 
   นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยรายงานนโยบายการเงิน เดือนกันยายน 2561 ว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.4% และปีหน้าคาดว่าจะขยายตัวได้ 4.2% ซึ่งยังมาจากการบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงถึง 40.6 ล้านคนในปีหน้า  


    ขณะที่เศรษฐกิจมองว่าในปี 2562 เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอลง โดยกนง.ได้ปรับคาดการณ์จีดีพีเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าลงเหลือ 3.5% จากเดิมคาด 3.6% ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.8% เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ ที่อาจเข้มข้นขึ้น ส่งผลให้เกิดการตอบโต้จากหลายประเทศ นอกจากนี้ยังต้องติดตามความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่มีความไม่แน่นอนและอาจรุนแรงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงภาคเศรษฐกิจจริงได้ รวมทั้งปัญหาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินของจีนที่แม้การกำกับดูแลของทางการจีนจะมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นแต่ยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม  


    อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว ส่งผลให้การส่งออกของไทยในปี 2562 มีแนวโน้มต่ำกว่าคาด โดยกนง.คาดว่าการส่งออกในปี 2562 จะขยายตัวได้ 4.2% จากเดิมคาด 5% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นในปี 2562 อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวดี ส่วนหนึ่งเพราะปัจจัยพิเศษจากการย้ายฐายการผลิตมายังไทยของอุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อการส่งออกที่สำคัญ คือ อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดร์  


    นอกจากนี้ กนง.ยังคงให้ติดตาม ภาวะการเงินในตลาดโลกที่มีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น ตามทิศทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ และธนาคารยุโรป และญี่ปุ่น แม้ยังผ่อนคลายนโยบายการเงินอีกระยะหนึ่ง รวมถึงยังต้องติดตามความคืบหน้าโครงการการลงทุนภาครัฐและเอกชน การเบิกจ่ายที่อาจล่าช้ากว่าที่ประเมิน รวมถึงการแข่งขันการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงินที่ยอมรับความเสี่ยงสูงมากขึ้น ขณะเดียวกัน กนง.ยังมองว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบ หากสิ้นปีนี้แตะที่ระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาเรล จากปัจจุบันคาดการณ์ที่ 70.3 ดอลลาร์ต่อบาเรล อาจกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริงได้ เนื่องจากราคาน้ำมันจะปรับสูงขึ้นมาก และจะเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งของผู้ประกอบการ  


    “กนง.จะติดตาม ผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นและเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตของโลกและต่อภาคธุรกิจไทยอย่างใกล้ชิด สำหรับราคาน้ำมันดิบดูไบที่สูงขึ้นนั้น มาจากอุปทานที่มีแนวโน้มลดลงกว่าคาดจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่าน และปัญหาทางเศรษฐกิจของเวเนซุเอลา เป็นต้นนายจาตุรงค์ กล่าว  


    นายจาตุรงค์ กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวในปี 2562 ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2562 มีโอกาสแตะ40.6 ล้านคน จากเดิมคาด 40 ล้านคน เนื่องจากมองว่าเหตุการณ์เรือท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ตมีผลน้อยกว่าคาด ขณะที่ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่ปรับดีขึ้น การเปิดเส้นทางการบินจากประเทศในกลุ่มอาเซียนมายังไทยมากขึ้น ความสามารถในการบริหารจัดการของสายการบินและสนามบินที่ส่งผลให้ท่าอากาศยานหลักสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น 


ที่มา: eFinance
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com