MTS Help Center

·       ค่าเงินยูโรแข็งค่า หลังได้รับข่าวอิตาลี

FX Street ระบุว่า ค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ (EUR/USD) ปรับแข็งค่าขึ้น 50 pips แตะระดับ 1.1594 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนที่จะย่อตัวลงเล็กน้อยมาเคลื่อนไหวแถวบริเวณ 1.1585 ดอลลาร์/ยูโร

โดยค่าเงินแข็งค่าจากรายงานข่าวว่า รัฐบาลอิตาลีกำลังพิจาณาปรับเป้าหมายยอดขาดดุลของ GDP สำหรับปี 2021 ลงสู่ระดับ 2% ส่งผลให้เกิดแรงเข้าซื้อกลับมาในค่าเงินยูโร

ระดับทางเทคนิค EUR/USD

แนวต้าน: 1.1600, 1.1640, 1.1660

แนวรับ: 1.1536, 1.1505, 1.1422

·       รายงานประจำวันของหนังสือพิมพ์ Corriere della sera ของอิตาลี ระบุว่ารัฐบาลอิตาลีมีแผนที่จะปรับลดคาดการณ์ยอดขาดดุลของ GDP ในปี 2021 ลงสู่ระดับ 2%

ทั้งนี้ รัฐบาลอิตาลีคาดการณ์ยอดขาดดุลของ GDP ในปี 2019 ไว้ที่ระดับ 2.4% และ 2.2% ในปี 2020

และกำลังพิจารณาจะควบคุมการขาดดุลโดยการลดการใช้จ่าย เนื่องจากถูกกดดันจากสหภาพยุโรป

·       ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าตลาดจะตึงตัวขึ้นหลังการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯที่จะเริ่มต้นขึ้นในเดือนหน้านี้ แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์จะปรับแข็งค่าและสต็อกน้ำมันนดิบจะเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม

ทั้งนี้ น้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ ที่ระดับ 84.89 เหรัยญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ ที่ระดับ 75.30 เหรียญ/บาร์เรล

โดยเหล่าเทรดเดอร์ ระบุว่า ตลาดน้ำมันดิบโลกยังคงยังคงตึงเครียดเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯต่อการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ซึ่งเริ่มเข้ามาตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.นี้

·       วิเคราะห์ราคาน้ำมัน WTI ทางเทคนิค: ราคาอาจย่อตัวกลับลงมาบริเวณ $74.00 ขณะที่ภาพรวมยังคงเป็นขาขึ้น

ราคาน้ำมัน WTI ยังคงเคลื่อนตัวใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2014 รวมทั้งเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 50, 100, และ 200 วัน ซึ่งบ่งชี้ถึงทิศทางขาขึ้นที่แข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ FX Street คาดการณ์ว่า WTI อาจย่อตัวกลับลงมาบริเวณ $74.00 – $73.00 เนื่องจากแรงเข้าซื้อเริ่มหมดกำลัง ในขณะเดียวกัน หากทิศทางขาขึ้นยังคงดำเนินต่อได้ในวันนี้ จะมีเป้าหมายอยู่ที่ระดับ $77.83 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 21 พ.ย. ปี 2014 และระดับ $80.00

แนวโน้มหลัก: ขาขึ้น

แนวต้าน: 75.24, 77.00, 77.83

แนวรับ:   74.00, 72.00, 71.45