ด้านค่าเงินหยวนปรับลดลง 0.09% ที่บริเวณ 6.8849 หยวน/ดอลลาร์ ขณะที่ธนาคารกลางจีนปรับค่ากลางของเงินหยวนวันนี้สู่ระดับ 6.8792 หยวน/ดอลลาร์ จากเมื่อวานนี้ที่ระดับ 6.8642 หยวน/ดอลลาร์
· ค่าเงินยูโรอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 วัน ที่บริเวณ 1.1615 ดอลลาร์/ยูโร หลังรัฐบาลอิตาลีประกาศหลังรัฐบาลอิตาลีประกาศปรับเป้าหมายยอดขาดดุลของ GDP สู่ระดับ 2.4% สำหรับ 3 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นการขัดแย้งต่อมุมมองของสหภาพยุโรปและของตลาดส่วนใหญ่
ทั้งนี้ ตลาดจะจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรในช่วงเย็นวันนี้ เพื่อดูว่าจะสอดคล้องกับมุมมองของนายมาริโอ้ ดรากี้ ประธาน ECB ว่าอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนจะสามารถขยายตัวได้ตามคาดหรือไม่
· พรรคร่วมรัฐบาลอิตาลีประกาศปรับเป้าหมายยอดขาดดุลของ GDP สู่ระดับ 2.4% ในอีก 3 ข้างหน้า ซึ่งขัดแย้งต่อความต้องการของสหภาพยุโรปและนายจิโอวานนี เทรีย รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจแห่งอิตาลี
ทั้งนี้ พรรคร่วมรัฐบาลคาดการณ์ว่า แผนงบประมาณฉบับใหม่จะช่วยให้ปริมาณหนี้สินในประเทศลดลงได้ในปี 2019 พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า ตลาดได้ตอบรับกับยอดขาดดุลของ GDP ที่จะเพิ่มสูงขึ้นไปแล้ว
ในขณะเดียวกัน สำนักข่าว Reuters ได้รายงานว่า นายเซอจิโอ มัตตาเรลลา ประธานาธิบดีอิตาลี ได้เรียกร้องให้นายจิโอวานนี ดำรงอยู่ในตำแหน่งต่อไป เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของตลาดเอาไว้ หลังรัฐบาลได้ประกาศปรับเป้าหมายยอดขาดดุลของ GDP ไม่เป็นไปตามที่นายจิโอวานนีต้องการ
· ผลสำรวจจาก Reuters พบว่า ชาวอังกฤษส่วนใหญ่จะสนับสนุนให้อังกฤษคงอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไป หากมีการลงประชามติ Brexit อีกครั้ง ด้วยคะแนน 52% ต่อ 48% ซึ่งเป็นผลคะแนนที่ค่อนข้างสูสีกับผู้สนับสนุนให้อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป
· นายบอริส จอห์นสัน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งอังกฤษ เรียกร้องให้นางเทเรเซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทำการล้มเลิกแผนการดำเนินการเจรจา Brexit ของเธอไปเสีย จึงเป็นการสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมให้กับนางเมย์ ก่อนที่จะมีการประชุมรัฐสภาประจำปีในอีก 2 วันข้างหน้า
ทั้งนี้ เหลือเวลาอีกประมาณ 6 เดือนก่อนที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางกาในวันที่ 29 มี.ค. ปี 2019 โดยยังคงไร้ความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจา Brexit กับสหภาพยุโรป ประกอบกับความขัดแย้งภายในรัฐสภาอังกฤษ ที่เสียงส่วนใหญ่ยังคงไม่ให้การสนับสนุนแนวคิดของของนางเมย์
· นักการทูตประจำสหภาพยุโรป ระบุว่า สหภาพจะรอคอยจนกว่าจะถึงเดือน พ.ย. ก่อนที่จะตัดสินให้การเจรจา Brexit จบลงแบบ No-deal พร้อมยอมรับว่า หากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นจริง อาจเกิดความโกลาหลได้
· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ติดตามผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากประเด็นการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯต่ออิหร่าน
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้น 0.2% ที่ระดับ 81.53 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.3% ท่ะรดับ 72.32 เหรียญ/บาร์เรล