• ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรและอ่อนค่าลงทำระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับค่าเงินออสซี่ จากความกังวลเกี่ยวกับTrade War ระหว่างสหรัฐฯและจีนที่เริ่มผ่อนคลายลงไปจากตลาดค่าเงิน และถึงแม้จะเห็นการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์แต่นักลงทุนในตลาดบางส่วนยังคงมองว่าดอลลาร์ยังมีแนวโน้มจะปรับแข็งค่าได้ต่อ
สิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจในขณะนี้ คือการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า โดยเฟดถูกคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวาระนี้ แต่นักลงทุนก็รอสัญญาณแนวทางการขึ้นดอกเบี้ยต่อไปของเฟด
ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.1% ที่ระดับ 94.538 จุด ขณะที่ค่าเงินปอนด์เมื่อวานผันผวนแต่ไปทำระดับแข็งค่าทำ High 1.3214 ดอลลาร์/ปอนด์ จากข้อมูลเงินเฟ้ออังกฤษที่ดีขึ้น ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 1.1674 ดอลลาร์/ยูโร
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวปกป้องนายเบรทท์ คาวานอร์ท (Brett Kavanaugh) ว่าที่คณะกรรมการประจำศาลสูงสุดแห่งสหรัฐฯ ที่นายทรัมป์เป็นผู้เสนอชื่อให้เข้ารับตำแหน่ง โดยระบุว่า เขาไม่เชื่อว่านายคาวานอร์ทจะมีการล่วงละเมิดทางเพศ และจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ หากผู้ที่กล่าวหาเขาไม่ยอมขึ้นรายงานตนต่อวุฒิสภา
ทั้งนี้ นายคาวานอร์ท ถูกกล่าวหาโดยนางคริสทีน เบรสซี่ ฟอร์ด (Christine Blasey Ford) ว่าเธอถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยนายคาวานอร์ทเมื่อปี 1982 สมัยที่ทั้งคู่กำลังศึกษาอยู่ในระดับ High School และทางวุฒิสภาได้กำหนดให้นางคริสทีน ขึ้นรายงานตนต่อวุฒิสภาภายในช่วงเช้าวันศุกร์ของสหรัฐฯ
• ทางทำเนียบขาว เปิดเผยรายงานที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีความตั้งใจจะแต่งตั้ง นางเนลลี เหลียง อดีตนักเศรษฐศาสตร์ของเฟดมารับตำแหน่งสมาชิกบอร์ดบริหารของเฟด เนื่องจากนางเหลียง มีพื้นหลังทางด้านการเงินและเสถียรภาพการใช้นโยบายการเงินที่แข็งแกร่ง ประกอบไปด้วยยุคการรับมือกับวิกฤต จึงอาจเป็นคนที่เหมาะสมที่จะมาดำรงตำแหน่งหนึ่งในคณะกรรมาธิการบอร์ดบริหารของเฟด
• ทางการสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯพร้อมเดินหน้าเจรจากับทางเกาหลีเหนือ หลังจากที่เมื่อวานนี้ เกาหลีเหนือให้คำมั่นที่จะทำลายแหล่งผลิตอาวุธนิวเคลียร์สำคัญ โดยนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ จะทำการเชิญรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือเข้าพบกันในกรุงนิวยอร์กสัปดาห์หน้า เพื่อหารือถึงแนวทางการปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ในช่วงเดือนม.ค. ปี 2019 หลังจากที่ผู้นำสหรัฐฯและเหาหลีเหนือเข้าพบกัน
• นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ระบุว่าเขาต้องการให้สหรัฐฯมีความยืดหยุ่นเกี่ยวกับกำหนดเส้นตายของการเจรจาภายใต้สนธิสัญญา NAFTA มากกว่านี้ โดยสหรัฐฯยังคงยืนยันที่จะกำหนดเส้นตายการเจรจาไว้ที่สิ้นเดือนนี้
ขณะที่นางคริสเทีย ฟรีแลนด์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งแคนาดา ได้ร่วมเจรจากับนายโรเบิร์ต ไรท์ไฮเซอร์ ตัวแทนการค้าแห่งสหรัฐฯ ภายใตสนธิสัญญา NAFTA เป็นรอบที่ 4 ภายในระยะเวลา 4 สัปดาห์ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายยังคงไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ในประเด็นสำคัญๆ
• นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เรียกร้องในเชิงเป็นมิตรและเคารพต่อการเจรจาระหว่างอังกฤษและอียู โดยคาดหวังว่าจะเห็นการผูกสัมพันธ์ระหว่างกันหลังจากที่เกิดกรณี Brexit
• นายฌอง คล็อด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการอียู กล่าวว่า หนทางที่การเจรจาการค้าและบริเวณภายใต้เงื่อนไข Brexit จะประสบความสำเร็จยังคงอีก “ยาวไกล” แม้ว่าการเจรจาเกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษจะประสบความสำเร็จแล้วก็ตาม แต่การเจรจาเกี่ยวกับการค้าและชายแดนระหว่างอังกฤษกับไอร์แลนด์ก็ยังคงยืดเยื้อมาจนถึงทุกวันนี้
ขณะที่ทางด้านนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้เรียกร้องให้บรรดาคณะกรรมการในอียุ ยกเลิกข้อเรียกร้องที่เป็นการแบ่งแยกประเทศออกจากกัน พร้อมโน้มน้าวให้คณะกรรมการพิจารณาข้อเสนอของเธอที่“จริงจังและสามารถปฏิบัติได้จริง” โดยอียูเรียกร้องให้ไอร์แลนด์ยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของอียูภายหลังจากที่อังกฤษถอนตัวออกไป
• ธนาคารกลางบราซิลยังคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ แต่มีการระบุว่าการค่อยๆปรับขึ้นดอกเบี้ยหากแนวโน้มทางเศรษฐกิจแย่ลงอีก โดยความกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งได้ส่งผลให้ค่าเงินเรียลของบราซิลปรับอ่อนค่าลงมาใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และนั่นอาจทำให้บราซิลตัดสินใจปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 ปี เพื่อช่วยพยุงการอ่อนค่าของค่าเงินดังกล่าว
• ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 2% ท่ามกลางแรงหนุนหลังรายงานปริมาณน้ำมันคงคลังของสหรัฐฯปรับลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับปริมาณอุปทานน้ำมันที่อาจลดลงหลังนโยบายคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่านมีผลบังคับใช้ในเดือน พ.ย.
โดยปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯประกาศออกมาลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สู่ระดับ 394.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. ปี 2015
ทั้งนี้ ราคาน้ำมัน WTI ปรับสูงขึ้น 1.27 เหรียญ หรือ 1.8% ที่ระดับ 71.12 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมัน Brent ปรับสูงขึ้น 37 เซนต์ หรือ 0.5% ที่ระดับ 79.40 เหรียญ/บาร์เรล