• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อวานนี้ จากนักลงทุนที่ลดความน่าสนใจในตลาดเกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ-เม็กซิโก และตลาดกลับมากังวลต่อข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนต่อ เนื่องจากดูไม่มีทีท่าว่าจะยุติในเร็ววัน
นักลงทุนกลับมาให้ความสำคัญกับกำหนดเส้นตายที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยระบุไว้ว่า แผนเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญ จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 ก.ย. หรือเป็นมาตรการใหม่ที่เราอาจเกิดขึ้นในเดือนหน้า
นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ โดยประมาณการณ์จีดีพีไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐฯออกมาดีกว่าที่คาดทำระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี สู่ระดับ 4.2% และปรับเพิ่มจากประมาณการณ์ในครั้งที่ 1 ที่ 4.1% จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในภาคธุรกิจและซอร์ฟแวร์ ขณะที่ยอดนำเข้าปรับลดลง จึงยิ่งหนุนโอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้าสูงถึง 96%
นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าวว่า ตลาดยังคงให้ความสำคัญกับถ้อยแถลงคุกคามทางการค้าล่าสุดของนายทรัมป์ เกี่ยวกับการจะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ยุโรป และการเตรียมเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าที่ระดับ 2 แสนล้านเหรียญ
ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าเล็กน้อย 0.5% ที่ระดับ 111.67 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดรอบ 4 สัปดาห์ โดยนักวิเคราะห์จาก UBS มองว่าแม้ค่าเงินดอลลาร์จะปรับแข็งค่า แต่ภาพหลักของค่าเงินเยนก็ยังคงอยู่ในทิศทางแข็งค่าเช่นกัน และมีโอกาสกลับลงไปแถว 110 เยน/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.1700 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ปรับแข็งค่าขึ้นในคืนวันก่อนหน้า ทางด้านดัชนีดอลลาร์เช้านี้ทรงตัวที่ 94.536
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุ สหรัฐฯและแคนาดาจะกลับมาเจรจาข้อตกลง NAFTA อีกครั้ง โดยเป็นไปได้น่าจะเกิดขึ้นในกำหนดเส้นตายวันศุกร์นี้
• รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของแคนาดา กล่าวว่า การเจรจาข้อตกลง NAFTA กับสหรัฐฯ ดูจะค่อนข้างแข็งแรงมากขึ้น และน่าจะมีเกิดความ “win-win” แก่ทั้ง 2 ฝ่าย
• นายดอน แมคกาห์น ที่ปรึกษาประจำทำเนียบขาว ที่มีความบาดหมางกับนายทรัมป์จากรณีการสืบสวนการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซีย ประกาศจะลาออกจากตำแหน่งภายในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้
ทั้งนี้ นายแมคกาห์นจะเป็นสมาชิกในทีมบริหารของนายทรัมป์คนล่าสุดที่ประกาศลาออก จึงอาจส่งผลกระทบต่อความตึงเครียดทางการเมืองของนายทรัมป์ให้เลวร้ายลงได้ แต่ก็อาจทำให้นายทรัมป์สามารถหาที่ปรึกษาคนใหม่ที่มีความมุ่งมั่นที่จะรับมือกับการสืบสวนของนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ หัวหน้าคณะสืบสวนพิเศษ ได้
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวโจมตีบริษัทเทคโนโลยีและโซเชี่ยลมีเดียรายใหญ่ที่รวมถึง Twitter, Facebook และ Google อีกครั้ง โดยกล่าวหาว่าบริษัทเหล่านี้กำลังพยายาม “ปิดปากผู้คน” และอาจดำเนินการอย่างผิดกฏหมาย ซึ่งเป็นการกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐานรองรับแต่อย่างใด
• ข้อมูลยอดผลิตรถยนต์ในอังกฤษปรับตัวลงไป 11% เมื่อเทียบรายปีในเดือนก.ค. เพราะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ และการปรับเปลี่ยนตามฤดูการ และการเตรียมการมาตรฐานด้านพลังงาน
• ข้อมูลยอดค้าปลีกญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 1.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์
• ราคาน้ำมันดิบปิดปรับขึ้นกว่า 1% โดยน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นไปทำระดับสูงสุดรอบ 7 สัปดาห์ และน้ำมันดิบ WTI ทำ High รอบ 3 สัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ปรับตัวลดลง รวมถึงสต็อกแก๊สโซนลีนด้วย ประกอบกับข่าวการลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 1.19 เหรียญ คิดเป็น +1.6% ที่ระดับ 77.14 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 11 ก.ค. ที่ระดับ 77.41 เหรียญ/บาร์เรล
น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 98 เซนต์ คิดเป็น +1.4% ที่ระดับ 69.51 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ระดับ 69.75 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 7 ส.ค.
• กระทรวง EIA เผย สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับลด 2.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว