• นักลงทุนสหรัฐฯเริ่มหันมาถือครองเงินสด คาดเดโมแครตครองเสียงข้างมากหลังเลือกตั้งกลางวาระ

    6 สิงหาคม 2561 | Economic News
 

มีความเป็นไปได้สูงขึ้นที่ทางพรรคเดโมแครตแห่งสหรัฐฯจะกลับมาครอบครองเสียงข้างมากในรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นในสภาผู้แทนราษฎรหรือทางวุฒิสภา หลังการเลือกตั้งกลางวาระที่จะเกิดขึ้นเดือน พ.ย. นี้

กระแสคาดการณ์ดังกล่าวจึงสนับสนุนให้บรรดานักลงทุนในตลาดสหรัฐฯเริ่มหันมาถือครองเงินสดมากขึ้น และลดความสนใจในภาคการเงินหรือเทคโนโลยีลง เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่ภาคธุรกิจเหล่านี้อาจโดนมาตรการใหม่เข้ามาควบคุมหลังการเลือกตั้งกลางวาระ

OppenheimerFunds และ BMO Global Asset Management เป็นหนึ่งให้สถาบันที่มีการเปลี่ยนแปลงพอร์ตการลงทุนของพวกเขาให้ระบุว่าเงินสดนั้นเป็นที่น่าสนใจมากกว่า ท่ามกลางการเลือกตั้งกลางวาระที่จะเกิดขึ้นวันที่ 6 พ.ย. ซึ่งเหลือไม่ถึง 100 วันแล้ว

สิ่งที่สถาบันเหล่านี้กังวลมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ คือการที่พรรคเดโมแครตกลับมามีเสียงข้างมากในรัฐสภา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งในการดำเนินนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มาจากพรรครีพับลิกัน รวมถึงสร้างความผันผวนให้กับตลาดหสรัฐฯมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ หากพรรคเดโมแครตกลับมามีเสียงมากขึ้น ก็มีความเป็นไปได้สูงขึ้นที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020 อาจเป็นผู้ที่มาจากพรรคเดโมแครต ซึ่งน่าจะเรียกร้องให้เกิดนโยบายประกันสุขภาพแบบทั่วถึง และการยกเลิกนโยบายลดภาษีของรีพับลิกัน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯเกิดการชะลอตัวลง

โดยสถาบัน Orlando ประเมินว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯอาจปรับร่วงลงอย่างน้อย 10% ในช่วงเดือน ส.ค. – ก.ย. เนื่องจากหลายๆฝ่ายเริ่มคาดการณ์กันว่าพรรคเดโมแครตจะกลับมามีเสียงข้างมากในรัฐสภา

ทั้งนี้ สถาบัน Real Clear Politics ประเมินว่าพรรคเดโมแครตมีคะแนนความนิยมสูงกว่าคู่แข่งอย่างรีพับลิกัน อยู่ถึง 7% และเดโมแครตจำเป็นต้องชิงที่นั่งในสภาผู้แทนฯกลับมาอย่างน้อย 23 ที่นั่ง และอีกอย่างน้อย 2 ที่นั่งในวุฒิสภา เผื่อที่จะสามารถกลับมามีเสียงข้างมากในรัฐบาลโดยสมบูรณ 


ที่มา : Reuters

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com