• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 3 กรกฎาคม 2561

    3 กรกฎาคม 2561 | Economic News

·       ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.58% บริเวณ 94.78 จุด ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะสามารถรับมือกับ Trade war ได้ดีกว่าเศรษฐกิจอื่นๆ ขณะที่นโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็นมูลค่ากว่า 3.4 หมื่นล้านเหรียญกำลังจะมีผลบังคับใช้จริงในวันศุกร์ที่ 6 ก.ค. นี้

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจ ISM Manufacturing PMI ของสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา ประกาศออกมาดีขึ้นกว่าคาดที่ระดับ 60.2 จุด จากที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 58.2 จุด จึงสามารถช่วยหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์สามารถแข็งค่าขึ้นอีกบางส่วน

ด้านค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าลง 0.6% บริเวณ 1.1615 ดอลลาร์/ยูโร ท่ามกลางแรงกดดันจากสถานการณ์ทางการเมืองในเยอรมนี ขณะที่ภาพรวมในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ยังคงเป็นทิศทางอ่อนค่าติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

·       นายวิลบอร์ รอส รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์แห่งสหรัฐฯ ระบุว่า ยังเร็วเกินไป” ที่จะตัดสินว่านโยบายขึ้นภาษีนำเข้ารถยนตร์จากยุโรปของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเกิดขึ้นจริง

นายรอสยังได้กล่าวถึงแนวโน้มที่ทรัมป์อาจถอนสหรัฐฯออกจากองค์การการค้าโลก (WTO) ว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินอีกเช่นกัน แต่ตัวเขาเองเห็นด้วยว่านโยบายระหว่างสหรัฐฯและ WTO มีจุดบกพร่องและควรได้รับการปฏิรูป

·       นายฮอร์สท์ ซีโฮเฟอร์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยแห่งเยอรมนีและประธานพรรค CSU ยกเลิกการข่มขู่จะลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่เขาและนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้มีการเจรจากันในหัวข้อของนโยบายผู้อพยพอีกครั้ง โดยนางอังเกลาตกลงที่จะเพิ่มมาตรการคุมเข้มบริเวณชายแดนของเยอรมนี ตามที่นายซีโฮเฟอร์ ได้เรียกร้องมา

·       นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ มีกำหนดจะเดินทางไปยังเกาหลีเหนือภายในวันพฤหัสบดีสัปดาห์นี้ เพื่อยืนยันการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ แม้จะมีความกังวลว่าเกาหลีเหนือจะให้ความร่วมมือในการปลดอาวุธจริงหรือไม่ก็ตา

·       ตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ ยืนยันว่าทางทีมบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯยังคงเป้าหมายที่จะลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านสู่ระดับ 0 บาร์เรล ภายในเดือน พ.ย.  อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงได้มีการส่งสัญญาณว่าผู้นำเข้าน้ำมันบางรายอาจได้รับการละเว้นให้สามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านได้ แม้นโยบายจะมีผลบังคับใช้แล้วก็ตาม

·       ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง หลังมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียและรัสเซียมีการเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันมากขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจในทวีปเอเชียเผชิญแรงกดดันจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ

โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 1.93 เหรียญ สู่ระดับ 77.30 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 21 เซนต์ สู่ระดับ 73.94 เหรียญ/บาร์เรล


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com