• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 29 มิถุนายน 2561

    29 มิถุนายน 2561 | Economic News




·         ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน ท่ามกลางข่าวความตึงเครียดทางการค้าที่ยังไม่มีอะไรใหม่ๆระหว่างสหรัฐฯและกลุ่มประเทศคู่ค้าอื่นๆที่เข้าจำกัดภาวะความต้องการค่าเงินเยน จึงทำให้ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าไป 0.26% ที่ระดับ 110.54 เยน/ดอลลาร์ ทางด้านดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.08ที่ระดับ 95.34 จุด หลังจากที่ปรับแข็งค่าขึ้นมาแล้วกว่า 1ในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา


ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ตอบรับกับข่าวที่ว่า นายทรัมป์ ประกาศที่จะใช้นโยบายด้านความมั่นคงในการจำกัดการลงทุนจีนในบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ และดูเหมือนความตึงเครียดดังกล่าวจะดูไม่มีความเข้มงวดน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้


อย่างไรก็ดี ในช่วงต้นตลาดค่าเงินดอลลาร์กลับอ่อนค่าลงจากข้อมูลการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาสแรกชะลอตัวลงมากกว่าครั้งที่แล้ว แต่ภาพรวมค่าเงินดอลลาร์ก็กลับขึ้นมาเคลื่อนไหวได้ใกล้ระดับสูงสุดรอบ 1 ปีบริเวณ 95.531 จุด


·         ข้อมูลจีดีพีสหรัฐฯไตรมาสแรกขยายตัวได้เพียง 2.0% จากประมาณการณ์ครั้งก่อนที่ระดับ 2.2ท่ามกลางการใช้จ่ายของกลุ่มผู้บริโภคที่อ่อนตัวลงมากที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี ขณะที่ไตรมาสที่ 4/2017 จีดีพีขยายตัวได้ 2.9%


·         นักวิเคราะห์บางรายยังมองว่า แม้จะมีความกังวลเรื่องการค้า แต่แนวโน้มระยะยาวของค่าเงินดอลลาร์ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า นับตั้งแต่ที่เฟดตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ และกระแสคาดการณ์ที่เพิ่มจากมุมมองที่เฟดต้องการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้


·         ค่าเงินยูโรทรงตัวเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์  โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อเยอรมนีที่ปรับขึ้นได้ตามเป้าหมายที่เฟดกำหนด ขณะที่กลุ่มผู้นำอียูจะร่วมหารือกันในช่วง 2 วันทำการต่อประเด็นกลุ่มผู้อพยพ


ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพ.ย.  ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่วิตกกังวลว่าอาจปราศจากความคืบหน้าในการเจรจาหาข้อตกลงการออกจาก Brexit จึงเห็นค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.3 ที่ระดับ 1.3050 ดอลลาร์/ปอนด์


·         ค่าเงินสกุลดิจิทัลมียอดขายพุ่งขึ้นแตะ 1.37 หมื่นล้านเหรียญในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ โดยเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับภาพรวมในปีที่แล้ว

·         นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยของเฟดน่าจะอยู่ในระดับที่เป็นกลางแล้ว พร้อมกับเตือนว่า หากเฟดยังเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ก็อาจจะเป็นการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินที่รุนแรงเกินไป

·         รายงานจาก Financial Times ระบุว่า นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯมีแผนจะทำการเยือนประเทศเกาหลีในสัปดาห์หน้าเพื่อหารือถึงแผนการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

·         รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า บรรดาผู้ประกอบการในสหรัฐฯได้ส่งจดหมายเรียกร้องให้กับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอการละเว้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม โดยมีจดหมายเรียกร้องในทำนองเดียวกันเป็นจำนวนกว่า 22,500 ฉบับ ขณะที่ทางรัฐบาลได้ปฏิเสธจดหมายเรียกร้องไปแล้วเพียง 4,000 กว่าฉบับ และยังคาดว่าจะยังคงมีการส่งข้อเรียกร้องเพิ่มเติมเข้ามาอีกเรื่อยๆ

·         นายจูเซปเป้ คอนติ นายกรัฐมนตรีแห่งอิตาลีคนใหม่ ได้สร้างความประหลาดใจให้กับที่ประชุมของสหภาพยุโรป โดยเขาได้ประกาศจะไม่ให้การสนับสนุนในที่ประชุม หากที่ประชุมไม่ตอบรับต่อข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการอพยพของรัฐบาลอิตาลี

ทั้งนี้ นายจูเซปเป้ คอนติ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการเสนอชื่อมาจากพรรคร่วมรัฐบาลของอิตาลีที่ประกอบไปด้วยพรรค 5-Star movement และพรรคฝ่ายขวาจัดซึ่งมีแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรป กำลังเรียกร้องให้ทางสหภาพยุโรประดมความช่วยเหลือทั้งในด้านการเงินและการควบคุมจำนวนผู้อพยพในพื้นที่ประเทศที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

·         ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นท่ามกลางราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดรอบ 3 ปีครึ่ง โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลจากภาวะอุปทานจากมาตรการคว่ำบาตรสหรัฐฯที่อาจส่งผลให้ยอดส่งออกน้ำมันดิบจากอิหร่านปรับลงครั้งใหญ่

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 69 เซนต์ หรือคิดเป็นเกือบ 1% ที่ระดับ 73.45 เหรียญ/บาร์เรล หลังไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 26 พ.ย.ปี 2014 ที่ระดับ 74.03 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้านน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 23 เซนต์ ที่ระดับ 77.85 เหรียญ/บาร์เรล


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com