• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2561

    26 มิถุนายน 2561 | Economic News



·         ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่วิตกกังวลต่อภาวะตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศเศรษฐกิจอื่นๆ


ทั้งนี้ ค่าเงินเยนแข็งค่าลง 0.44ที่ระดับ 109.48 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 109.38 เยน/ดอลลาร์ ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.28% ที่ระดับ 94.249 จุด ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่า 0.45% ที่ระดับ 1.1708 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์บริเวณ 1.1713 ดอลลาร์/ยูโร


อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับขึ้นแตะ 2.884ลดลงจากระดับ 2.900% ในคืนวันศุกร์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี และ 10 ปี ปรับลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2007


·         สัญญาณความขัดแย้งทางการค้าที่เพิ่มขึ้นจากทีมบริหารของนายทรัมป์ในการเสนอการปรับโครงสร้างการลงทุนต่างประเทศในบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ ประกอบกับการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าล่าสุดที่กำลังเริ่มเป็นอุปสรรคต่อห่วงโซ่อุปทานได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงเมื่อวานนี้


·         นายสตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เผยว่า การปรับโครงสร้างการลงทุนต่างประเทศในภาคบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯไม่เพียงแต่จะส่งผลเฉพาะกับประเทศจีนเท่านั้น แต่อาจจะส่งผลกับทุกๆประเทศที่พยายามขโมยเทคโนโลยีของสหรัฐฯ


·         ขณะที่รายงานล่าสุดจาก CNBC ระบุว่า นายปีเตอร์ นาวาร์โร หนึ่งในที่ปรึกษาระดับสูงทางด้านการค้าของนายทรัมป์ กล่าวว่า ตลาดมีท่าทีตื่นตระหนกต่อไปต่อความกังวลของทีมบริหารที่อาจปรับโครงสร้างการลงทุนต่างประเทศซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินทางการค้าต่อจีนและประเทศอื่นๆ เพื่อตอบโต้การละเมิดทางเทคโนโลยีและภาคอุตสาหกรรม แต่สหรัฐฯยังไม่มีแผนการกำหนดเม็ดเงินลงทุนสำหรับการปรับโครงสร้างการลงทุนใดๆต่อทุกประเทศ


อย่างไรก็ดี ถ้อยแถลงของนายนาวาร์โร มีขึ้นหลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯดิ่งลงวานนี้ โดยจะเห็นได้ว่าดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลงไปกว่า 300 จุด


·         จีนกล่าวกับทางฝรั่งเศสว่า จะทำการเข้าซื้อสินค้าเกษตร และในอนาคตจะทำการเข้าซื้อสินค้ Airbus พร้อมให้คำมั่นที่จะให้ความร่วมมือในการเข้าถึงตลาด ซึ่งถือเป็นการสานสัมพันธ์ทางการค้ากับยุโรป ท่ามกลางปัญหาความตึงเครียดของ  Trade War ที่เพิ่มขึ้นกับทางสหรัฐฯ


ทั้งนี้ จีนยังคงอยู่ในภาวะยากลำบากกับการเจรจากับทางสหรัฐฯ ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายกล่าวเตือนว่า เครื่องบินโบอิงจากทางยุโรปจะกลายมาเป็นผลเสีย หากว่าสหรัฐฯกับจีนยังคงล้มเหลวในการแก้ปัญหา Trade War


อย่างไรก็ดี ทั้งจีนและอียูต่างก็ประสบปัญหาทางการค้ากับสหรัฐฯ ขณะที่จีนพยามหาแนวทางความร่วมมือกับอียูท่ามกลางการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ


·         รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฝรั่งเศส กล่าวว่า ยุโรปจะทำการตอบโต้กลับหาก นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคุกคามทางการค้าด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตโดยยุโรป

·         สถาบันจัดอันดับ Moody’s Investors Service กล่าวว่า ภาษีนำเข้ารถยนต์อาจส่งผลลบต่อภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์, ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์, กลุ่มดีลเลอร์รถยนต์ และบริษัทขนส่ง โดยกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์อาจจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายเพื่อป้องกันยอดขายให้สูงขึ้นและนั่นก็จะส่งผลลบต่อผลกำไรของบริษัท อีกทั้งราคาที่เพิ่มสูงขึ้นก็จะส่งผลให้กลุ่มผู้บริโภคเสียภาษีรถยนต์เพิ่มขึ้น และนี่จะเป็นผลลบต่อยอดขายรถยนต์ หรือเป็นได้ทั้งสองกรณี

·         นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า อังกฤษอาจเริ่มกำหนดรายละเอียดมุมมองในอนาคตสำหรับความสัมพันธ์กับประเทศสมาชิกในยูโรโซนได้หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมวันที่ 28-29 มิ.ย. 61

·         ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงท่ามกลางนักลงทุนที่ตอบรับกับการขยายกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกสูงสุดถึง 1 ล้านบาร์เรล/วัน  ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงหนักจากความกังวลต่อสงครามทางการค้

น้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 82 เซนต์ คิดเป็น -1.1ที่ระดับ 74.73 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 50 เซนต์ ที่ระดับ 68.08 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com