MTS Help Center

นโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศจีนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สร้างผลกระทบในเชิงลบต่อเกษตรกรสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าอย่างแอปเปิ้ล เมล็ดถั่วเหลือง และข้าวโพด เนื่องจากจีนถือเป็นคู่ค่าหลักของสินค้ากลุ่มดังกล่าว

บรรดาเกษตรกรในสหรัฐฯถือได้ว่าเป็นฐานเสียงสำคัญในช่วงการเลือกตั้งปี 2016 ของนายทรัมป์ โดยเขาได้ให้สัญญาว่าจะกอบกู้เศรษฐกิจในถิ่นชนบท และลดภาษีสำหรับภาคอสังหาฯที่เป็นปัญหาด้านการเงินของบรรดาเกษตรกร

แต่ในปัจจุบัน เกษตรกรกลับกลายเป็นผู้ได้รับความเสียหายมากที่สุดจากราคาสินค้าการเกษตรที่ตกต่ำลง ประกอบกับการส่งออกที่ชะลอตัวหลังนายทรัมป์ได้ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าและก่อให้เกิดกระแสต่อต้านจากประเทศพันธมิตรที่เป็นผู้ซื้อหลักของสินค้ากลุ่มแอปเปิ้ล ชีส มันฝรั่ง สุรา และเมล็ดถั่วเหลือง

เกษตรกรสหรัฐฯยังมีผลประกอบการที่อยู่ในระดับค่อนข้างแย่มาตั้งแต่ก่อนที่นายทรัมป์จะประกาศขึ้นภาษีเสียอีก โดยรายได้เฉลี่ยของเกษตรกรสหรัฐฯในปีนี้ถูกคาดว่าจะชะลอตัวลง 6.7% สู่ระดับ 5.95 หมื่นล้านเหรียญ

ยิ่งไปกว่านั้น ทิศทางในอนาคตของเกษตรกรสหรัฐฯยังคงมืดมน จากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯในคู่ค้าในสนธิสัญญา NAFTA ซึ่งก็คือเม็กซิโก และแคนาดา รวมถึงความขัดแย้งกับจีนและยุโรปที่ดูจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จาก Ohio State University คาดการณ์ว่า นโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนจะส่งผลให้เกษตรกรในรัฐโอไฮโอสูญเสียรายได้จากการส่งออกข้าวโพดลงไปกว่า 30% ในปี 2018 และถ้าหากนโยบายภาษียังมีผลต่อไป รัฐโอไฮโอก็มีโอกาสสูญเสียรายได้ไปกว่า 63% ภายในปี 2019