• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 6 มิถุนายน 2561

    6 มิถุนายน 2561 | Economic News


·         ค่าเงินหยวนปรับแข็งค่าขึ้นมากที่ดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ โดยได้รับอานิสงส์จากสัญญาณชี้นำของธนาคารกลางจีน (PBOC) จึงช่วยจำกัดภาวะความต้องการดอลลาร์ที่กำลังเพิ่มขึ้นในภาคบริษัท

โดยค่ากลางของค่าเงินหยวนที่ทาง PBOC กำหนดวันนี้อยู่ที่ 6.4040 หยวน/ดอลลาร์ หรือปรับขึ้นมา 117 pips ขณะที่ตลาดโลกวันนี้ค่าเงินหยวนเปิดมาที่ 6.4036 หยวน/ดอลลาร์ ก่อนจะไปทำระดับแข็งค่ามากที่นสุดนับตั้งแต่ 28 พ.ค. บริเวณ 6.3910 หยวน/ดอลลาร์

·         อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นแตะ 2.91% ขณะที่ผลตอบแทนพอายุ 2 ปีปรับขึ้น 1.38% จากสัญญาณที่ว่ารัฐบาลใหม่ของอิตาลีไม่มีแผนที่จะปรับลดค่าใช้จ่ายภายในประเทศครั้งใหญ่ ขณะที่อีซีบีกล่าวถ้อยแถลงเชิงคุมเข้มทางการเงิน

·         เม็กซิโก ประกาศจะทำการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าประเภทเนื้อหมูของสหรัฐฯ ที่รวมถึงเนื้อส่วนสันคอและเนื้อส่วนขา ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสดหรือเนื้อแช่แข็ง และติดกระดูกหรือไม่ก็ตาม จะต้องพบกับกำแพงภาษี 20% ถือเป็นการตอบโต้มาตรการกำแพงภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ 25% และ 10% ตามลำดับ ซึ่งมีผลบังคับใช้ต่อเม็กซิโก แคนาดา และสหภาพยุโรป (อียู) ในสัปดาห์ที่แล้ว

·         เฟดมีแนวโน้มจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับเป้าหมาย จากระดับดอกเบี้ยปัจจุบันที่ 1.5 - 1.75%  ก็ดูมีแนวโน้มที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า


ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วน มีท่าทีระมัดระวังเพราะกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เกิดความไม่มั่นคงในตลาดพันธบัตรได้ เนื่องจากระดับดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นจะส่งผลให้เกิดการลดความน่าสนใจทางการลงทุนไป และจะเป็นปัญหาต่อสินเชื่อและสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ และยังจะส่งผลให้บรรดาเทรดเดอร์ทำผลกำไรได้น้อยลงจากดอกเบี้ยเงินกู้ภาคบริษัทที่ปรับตัวสูงขึ้น

·         แหล่งข่าวรายงานว่า บริษัท ZTE ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารของจีน ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับสหรัฐฯ โดยระบุว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯจะยกเลิกคำสั่งมตราคว่ำบาตรบริษัทดังกล่าว ทำให้สามารถกลับเข้ามาทำธุรกิจได้ ขณะที่ทางบริษัทจะต้องจ่ายเงินค่าปรับจำนวน 1.7 พันล้านเหรียญ

·         นายปีเตอร์ แพรท หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากอีซีบี กล่าวว่า อีซีบีมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นต่อทิศทางเงินเฟ้อที่จะกลับสู่เป้าหมายที่อีซีบีกำหนดได้ โดยการประชุมอีซีบีในสัปดาห์หน้าน่าจะมีสัญญาณการปรับลดการเข้าซื้อ QE อย่างค่อยเป็นค่อยไป

·         นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น พยายามสานสัมพันธ์กับผู้นำสหรัฐฯ โดยมีกำหนดร่วมหารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อเรียกร้องให้สหรัฐฯไม่ลืมถึงความกังวลด้านความมั่นคงที่ญี่ปุ่นเคยเรียกร้องไว้สำหรับกรณีที่ นายทรัมป์ จะเข้าพบผู้นำเกาหลีเหนือในสัปดาห์หน้า

·         รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเม็กซิโก กล่าวว่า มีโอกาส 50-50 ที่จะสามารถบรรลุข้อตกลงหลักๆของ NAFTA ได้ในปีนี้ แม้ว่าจะมีภาวะตึงเครียดทางการค้าระหว่างเม็กซิโกและสหรัฐฯก็ตาม

อย่างไรก็ดี เม็กซิโกอาจมีการนำเข้าสินค้าประเภทเนื้อหมูเพิ่มมากขึ้นจากทางยุโรป หลังจากที่ปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าประเภทเนื้อหมูจากสหรัฐฯจำนวน 20% เพื่อตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากสหรัฐฯ

·         ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น หลังจากเวเนซุเอลาเพิ่มโอกาสที่จะชะลอการส่งออกน้ำมันดิบ อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นเป็นไปได้อย่างจำกัด  เนื่องจากรายงานที่ว่าสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้ซาอุดิอาระเบียและกลุ่มประเทศโอเปกเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน หลังราคาน้ำมันเบนซินขายปลีกในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มสูงสุดในรอบ 3 ปี

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 50 เซนต์ ที่ระดับ 75.88 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 20 เซนต์ ที่บริเวณ 65.72 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com