• ราคาทองคำทรงตัวแถว 1,290 เหรียญ หลังจากที่ร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดใหม่ของปีนี้บริเวณ 1,285.41 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดลดลง 2.1 เหรียญ คิดเป็น -0.2% ที่ระดับ 1,289.4 เหรียญ ท่ามกลางการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้น ประกอบกับความเสี่ยงทางการเมืองของอิตาลีที่ยังทำให้ดัชนีดอลลาร์เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดของปี
• สัปดาห์นี้ ราคาทองคำปรับตัวลงไปแล้วกว่า 2% ที่ถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์หลังผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดรอบ 7 ปี โดยจะเห็นได้ว่า ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าได้สูงกว่า 4% ในไตรมาสนี้ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะทำการขึ้นดอกเบี้ยได้ต่อเนื่องเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ขณะที่ทองคำ ณ ขณะนี้มีแรงหนุนบางส่วนมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองจากกรณีความแย้งของเกาหลีเหนือ
• ประธานฝ่ายการตลาดระดับโลกของ Everbank กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์และทิศทางดอกเบี้ยดูจะเป็นปัจจัยที่แท้จริงในการขับเคลื่อนทองคำ และจะเห็นได้ว่าการปรับตกลงมาของทองคำก็มาจาก 2 ประเด็นดังกล่าว
• ค่าเงินยูโรยังถูกกดดันและทรงตัวแถวระดับอ่อนค่าในรอบ 5 เดือนจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะทางการเมืองในอิตาลีที่อาจเป็นอุปสรรคต่อค่าเงินในภูมิภาค
• นักวิเคราะห์บางส่วน เห็นพ้องกันว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองในเกาหลีเหนือเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่เกาหลีเหนือขู่จะถอนตัวจากการเข้าประชุมร่วมกับผู้นำสหรัฐฯ และปัจจัยนี้ดูเหมือนจะมาช่วยสกัดการร่วงลงของทองคำได้บ้าง
• นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities กล่าวว่า ตลาดยังไม่แน่ใจว่าเฟดจะสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้มากขึ้นหรือไม่ ประกอบกับยังคงมีความวิตกกังวลต่อภาวะไม่แน่นอนทางการเมือง และทั้งหมดนี้น่าจะเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนต่อทิศทางราคาทองคำได้ แต่นักวิเคราะห์จาก INTL FCStone มอง ทองคำยังมีความผันผวนจากค่าเงินดอลลาร์และภาวการณ์ปรับขึ้นดอกเบี้ย
• ภาพรวมนักวิเคราะห์ คาดว่า ราคาจะผันผวนขาลง หลังจากที่ปรับตัวลงหลุดต่ำกว่าระดับสำคัญทางเทคนิคได้ในสัปดาห์นี้
• นักวิเคราะห์จาก Commerzbank ระบุว่า หลังจากที่ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญบริเวณเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วันที่ระดับ 1,302.74 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดต่ำเดิมในดือนมี.ค. และเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ย Fibonacci 50% ดังนั้น จึงมีโอกาสเห็นราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบไปก่อน
• World Gold Council เผยแพร่บทความพิเศษ ชื่อว่า "Gold 2048" โดยได้ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในอุตสาหกรรมจากทั่วโลกมาร่วมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับทิศทางของตลาดทองคำว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในอีก 30 ปีข้างหน้า พร้อมเปิดเผยว่าการขยายตัวของชนชั้นกลางในจีนและอินเดีย รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจในวงกว้างมากขึ้น จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความต้องการทองคำ ขณะที่การใช้ทองคำในภาคพลังงาน เฮลท์แคร์ และเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่สถานะของทองคำจะยังคงเป็นวัตถุทางเลือกต่อไป และจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า
• กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันยังคงถือครองทองคำที่ระดับ 856.17 ตัน ติดต่อกัน 4 วันทำการ
• ราคาซิลเวอร์ปิด +0.6% ที่ระดับ 16.44 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด +0.4% ที่ระดับ 890.80 เหรียญ หลังจากที่ช่วงต้นไปทำระดับต่ำสุดรอบ 5 เดือนบริเวณ 879 เหรียญ และราคาพลาเดียมปิด -0.6% ที่ระดับ 977.47 เหรียญ
