• ค่าเงินดอลลาร์ปิดปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดของปีนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายทำกำไรที่กลับเข้าสู่ตลาด แต่ภาพรวมคาดว่าค่าเงินดอลลาร์จะอยู่ในทิศทางแข็งค่าจากข้อมูลการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
ดัชนีดอลลาร์อ่อนตัวลงเล็กน้อยประมาณ 0.1% ที่ระดับ 93.028 จุด หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดของปีนี้บริเวณ 93.416 จุด และนับเป็นช่วง 3 สัปดาห์ต่อเนื่องที่ค่าเงินดอลลาร์มีการฟื้นตัวในทิศทางแข็งค่า หลังจากที่อ่อนค่าติดต่อกันในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา
ค่าเงินยูโรทำระดับต่ำสุดของปีนี้บริเวณ 1.1821 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนจะดีดกลับมาได้ประมาณ 0.1%ที่ระดับ 1.1875 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าขึ้น 0.5% ที่ระดับ 109.68 เยน/ดอลลาร์
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ยังคงได้รับอานิสงส์จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยได้อีกอย่างน้อย 2 ครั้งในปีนี้ รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของตราสารหนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเงินของรัฐบาลสหรัฐฯจากข้อขัดแย้งทางการค้า หรือยอดขาดดุลที่จะเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปียังคงทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี และ Break เหนือ 3% และมีแนวโน้มจะพุ่งขึ้นไปแตะระดับไม่น้อยกว่า 3.5% หากเฟดมีท่าทีคุมเข้มทางการเงินมากขึ้นจากมุมมองที่แข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ก็จะเป็นปัจจัยผลักดันให้ผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นต่อได้
• ข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯประจำเดือนเม.ย. ออกมาแย่กว่าที่คาดที่ระดับ 0.1% จากเดิมที่ขยายตัวได้ 0.3% จงกดดันให้ภาพรวมรายปีขยายตัวลดลงสู่ 2.6% จากระดับ 3.0% ในเดือนก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ข้อมูล PPI มีการขยายตัวได้จากราคาในกลุ่มภาคาบริการ ไม่ว่าจะเป็นภาคโรงแรมหรือกลุ่มสุขภาพ จึงช่วยคลายความกังวลเรื่องแรงกดดันเงินเฟ้อที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น แต่การชะลอตัวลงล่าสุดมาจากราคาในกลุ่มค้าส่งที่ชะลอตัวลง ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯมองว่าน่าจะเป็นเพียงภาวะชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากภาคการผลิตดูจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสำหรับวัตถุดิบ ขณะที่ราคาน้ำมันน่าจะขยับขึ้นได้อีก หลังจากที่นายทรัมป์ ตัดสินใจให้สหรัฐฯถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียอิหร่าน
• เกาหลีเหนือทำการปล่อยนักโทษชาวอเมริกันจำนวน 3 รายส่งคืนให้แก่ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการเคลียร์ข้อขัดแย้งก่อนการประชุมระหว่างผู้นำเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ภายในอีก 3 วัน จะทำการประกาศรายละเอียดการจัดประชุมกับ นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ แต่การเจรจาจะไม่เกิดขึ้นในบริเวณเขตปลอดทหารของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
• นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผย จะยังไม่ผ่อนปรนแรงกดดันใดๆกับทางเกาหลีเหนือ จนกว่าจะมีการยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์
• เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของสหภาพยุโรปกำลังพยายามจะรักษาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านให้เดินหน้าต่อไป อันหมายรวมถึงสัญญาฉบับใหม่ระหว่างสหรัฐฯและอิหร่าน
ทั้งนี้ ชาติสมาชิกยุโรปค่อนข้างผิดหวังกับการตัดสินใจผิดหวังต่อการที่นายทรัมป์ ตัดสินใจเลือกออกจากข้อตกลงดังกล่าว และจะกลับมาเพิ่มบทลงโทษผ่านมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งประธานรัฐสภายุโรป เผยจะเพิ่มข้อกำหนดอิหร่านในการหารือร่วมกันในที่ประชุมEU summit สัปดาห์หน้า ณ กรุงโซเฟีย ประเทศมัลแกเรีย ซึ่งทางคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปจะหารือภายในเกี่ยวกับข้อกำหนด รวมทั้งทำการศึกษามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯต่อบทลงโทษครั้งใหม่ เพื่อให้เข้าใจถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับพวกเขา
• ผู้เชี่ยวชาญเตือน การที่สหรัฐฯถอนตัวออกจากสนธิสัญญานิวเคลียร์กับอิหร่าน อาจเป็นชนวนก่อให้เกิดความขัดแย้งทางการทูตระหว่างสหรัฐฯและประเทศพันธมิตรฝั่งยุโรป ซึ่งในอดีตได้เคยเกิดกรณีแบบนี้ขึ้น และสหรัฐฯก็เป็นฝ่ายถูกกดดันจนต้องพิจารณานโยบายใหม่อีกครั้ง
• นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เผยภายหลังจากที่เข้าพบประธานาธิบดีรัสเซีย โดยระบุว่า รัสเซียไม่มีแนวโน้มที่จะพยายามดำเนินการทางทหารใดๆกับอิสราเอล นับตั้งแต่ที่เกิดขอขัดแย้งกับทางประธานาธิบดีซีเรียในปี 2015
• รายงานล่าสุดจาก Reuters ระบุว่า ธนาคารกลางอังกฤษ หรือ บีโออี มีแนวโน้มจะคงระดับดอกเบี้ยไปก่อน หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจออกมาแย่กว่าที่คาด ประกอบกับเมื่อพิจารณาจากถ้อยแถลงของนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการบีโออี ที่ดูจะลดมุมมองของตนเองลง จนกว่าจะมีความมั่นใจและข้อมูลการขยายตัวที่เพิ่มขึ้น
• ราคาน้ำมันดิบปิดปรับขึ้นประมาณ 3% และไปทำระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 3 ปีครึ่ง หลังข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯออกมาเพิ่มขึ้นเกินคาด ขณะที่สหรัฐฯมีแนวโน้มจะกลับมาใช้บทลงโทษต่อทางอิหร่านในอีก 180 วันให้หลัง เว้นแต่ว่าจะบรรลุข้อตกลงบางส่วนร่วมกันได้
น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 2.36 เหรียญ คิดเป็น +3.2% ที่ระดับ 77.21 เหรียญ/บาร์เรล โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาทำ High นับตั้งแต่พ.ย. 2014 บริเวณ 77.43 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบWTI ปิดปรับขึ้น 2.08 เหรียญ คิดเป็น +3% ที่ระดับ 71.14 เหรียญ/บาร์เรล โดยที่ภาพระดับวันของน้ำมันดิบ 2 ประเภทปรับตัวขึ้นได้ในระดับวันมากที่สุดในรอบเดือนที่ผ่านมา