• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 29 มีนาคม 2561

    29 มีนาคม 2561 | Economic News


• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยรีบาวน์กลับจากระดับต่ำสุดรอบ 5 สัปดาห์เมื่อวานนี้ โดยค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากเม็ดเงินช่วงสิ้นไตรมาส และการที่นักลงทุนลดภาวะความกังวลต่อสงครามการค้า

ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นมา 0.79% ที่ระดับ 90.08 จุด โดยดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นได้เกือบ 1% นับตั้งแต่ที่ลงไปทำจุดต่ำสุดเมื่อวันอังคารบริเวณ 88.942 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ทางด้านค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าขึ้นแตะระดับ 106.86 เยน/ดอลลาร์

ในช่วงสิ้นไตรมาสหรือเดือนสุดท้ายของไตรมาสมีเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาจึงช่วยหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์ จากบรรดากองทุนสินทรัพย์ทั่วโลกและผู้จัดการกองทุนต่างๆที่เข้าทำการปรับสมดุลพอร์ตฟอลิโอของตนเอง ประกอบกับข้อมูลจีดีพีไตรมาสที่ 4/2017 ของสหรัฐฯที่ยังบ่งชี้ถึงภาวะการขยายตัวออกมาดีกว่าที่คาดจึงเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์

• ผลการประกาศ Final GDP หรือรายงานจีดีพีไตรมาสที่ 4/2017 ของสหรัฐฯ ออกมาขยายตัวได้เกินคาดที่ระดับ 2.9% แต่น้อยกว่าการขยายตัวในไตรมาสที่ 3/2017 ที่ทำไว้ 3.2% โดยได้รับอานิสงส์จากการใช้จ่ายในกลุ่มผู้บริโภคที่มากที่สุดในรอบ 3 ปี จึงช่วยชดเชยข้อมูลชะลอตัวของภาคสินค้านำเข้า

นอกจากนี้ ข้อมูลจีดีพียังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคการลงทุนในสินค้าคงคลังที่ปรับตัวขึ้น 1.56 หมื่นล้านเหรียญในไตรมาสที่ 4/2017 จากระดับ 8 พันล้านเหรียญในไตรมาสก่อน

• สัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายของสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นในเดือนก.พ. แตะระดับ 107.5 จุด หรือคิดเป็น +3.1% จากข้อมูลเดือนก่อนหน้าที่ปรับทบทวนลงไปที่ 104 จุด จาก 104.3 จุด

• กระบวนการคัดเลือกผู้ที่จะมาแทนตำแหน่งประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ประสบกับแรงต่อต้านจากประชาชนชาวนิวยอร์ก หลังมีรายงานว่า นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก คือผู้ที่มีโอกาสจะได้รับตำแหน่งดังกล่าว จึงเป็นการสร้างความไม่พึงพอใจให้กับประชาชนที่ต้องการเห็นความหลากหลายทางเผ่าพันธุ์และเพศในระบบบริหารงานของเฟด

การประท้วงที่เกิดขึ้นในเมืองนิวยอรืกอาจเป็นปัจจัยกดดันการดำเนินงานของนายเจอโรม โพเวล ประธานเฟด ที่ต้องการบริหารเฟดให้เป็นอิสระจากระบบการเมืองของสหรัฐฯ

• ปัญหาทางด้านกฏหมายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีท่าทีเลวร้ายลงอีกครั้ง หลังรายงานจาก Reuters เปิดเผยว่า ทนายความประจำทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะยกฟ้องนายทรัมป์ เกี่ยวกับกรณีที่เขายังคงถือครองกรรมสิทธ์ในธุรกิจของตนเองอยู่ หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว

โดยทนายความได้ระบุว่า การกระทำของนายทรัมป์เป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ที่ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อป้องกันการใช้อำนาจโดยทุจริต

• ขณะที่ทางทำเนียบขาว กล่าวว่า สถานการณ์ของเกาหลีเหนือเป็นไปในทิศทางที่ถูกที่ควร หลังจากที่ทางการจีน เปิดเผยว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือให้คำมั่นว่าจะทำการยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และเข้าพบกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลังจากที่ผุ้นำเกาหลีเหนือและผู้นำจีนมีการเข้าพบกันเพื่อปรองดองและสานสัมพันธ์ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน

• หลังจากที่บรรดาประเทศในสหภาพยุโรปได้ประกาศปลดนักการทูตชาวรัสเซียออกไปส่วนหนึ่ง ล่าสุด ทางสหภาพยุโรปได้ออกมายืนยันว่าจะคงมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียต่อไป พร้อมระบุว่าจะมีการประชุมร่วมกันรัสเซียในวันที่ 16 เม.ย. นี้ ซึ่งเป็นกำหนดการเดิมที่มีขึ้นก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์การใช้สารพิษกับอดีตสายลับรัสเซียในอังกฤษที่ รัสเซียเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ก่อนแล้ว

ด้านรัฐบาลรัสเซียเปิดเผยว่า จะมีการออกมาตรการตอบโต้หลายๆประเทศที่ได้ทำการสั่งปลดนักการทูตของพวกเขาออก จากกรณีที่รัสเซียถุกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการใช้สารพิษกับอดีตสายลับรัสเซียในอังกฤษ

• ราคาน้ำมันดิบปิดลดลงประมาณ 1% หลังจากที่ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯออกมาปรับตัวสูงขึ้นเกินคาดแตะระดับ 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว จึงกดดันความเชื่อมั่นต่อตลาด

น้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 70 เซนต์ ที่ระดับ 68.76 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 87 เซนต์ ที่ระดับ 64.38 เหรียญ/บาร์เรล คิดเป็น -1.3%

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com