• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 8 มกราคม 2561

    8 มกราคม 2561 | Economic News


• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นในคืนวันศุกร์ หลังจากที่อ่อนค่าลงจากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุนที่ตอบรับกับข้อมูลการจ้างงานของรัฐบาลสหรัฐฯที่ออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์ แต่ภาพรวมของรายงานดังกล่าว ตลาดค่าเงินมองว่าไม่น่าเป็นอุปสรรคใดต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจำนวน 3 ครั้งในปีนี้

โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงไปประมาณ 0.31% ที่ระดับ 1.203 ดอลลาร์/ยูโร เช่นเดียวกับค่าเงินเยนที่ปรับอ่อนค่า 0.31% ที่ระดับ 113.10 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์รีบาวน์ขึ้น 0.18%และเช้านี้ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวอยู่ที่ 91.965 จุด

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2 ปี ยังคงทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี แม้ข้อมูลจ้างงานจะออกมาแย่กว่าที่คาด แต่เฟดก็ยังมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้มากครั้งในปีนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นมาสู่ระดับ 2.4763% จากระดับ 2.453% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.786% สู่ระดับ 2.8074%

• เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group แสดงให้เห็นว่า มีโอกาส 60% ที่เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ขณะที่นักกลยุทธ์ตลาดโลกอาวุโสจาก BNY Mellon กล่าวว่ายังไม่เห็นปัจจัยใดที่จะสร้างอุปสรรคต่อการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ซึ่งถึงแม้ข้อมูลจ้างงานจะออกมาน่าผิดหวัง แต่ภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯก็ยังอยู่ในเกณฑ์การขยายตัว

• รายงาน Nowcast จากเฟดสาขานิวยอร์ก แสดงให้เห็นว่า ในไตรมาสที่ 4/2017 จีดีพีสหรัฐฯจะขยายตัวได้ดีเกินคาด เพราะได้รับอานิสงส์จากกิจกรรมภาคการผลิตและคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง โดยประเมินจีดีพีไตรมาสที่ 4 ไว้ที่ 3.97% จากคาดการณ์เดิม 3.87% ขณะที่ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2018 คาดจีดีพีสหรัฐฯจะขยายตัวได้ 3.45% จากคาดการณ์เดิม 3.15%

• นายเจอโรม โพเวล ว่าที่ประธานเฟด ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในช่วงต้นเดือนก.พ.นี้ มีแนวโน้มจะได้รับแรงกดดันในการทำงานและการออกนโยบายเพื่อควบคุมตลาดการเงิน ภายใต้อัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มจะขยายตัว หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯได้เคลื่อนไหวอ่อนแอมาตลอด 5 ปี

• นางลอเร็ตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาเคฟแลนด์ เชื่อมั่นว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างแข็งแกร่งรวมถึงเงินเฟ้อที่จะรีบาวน์กลับในอีกไม่กี่ปีนี้ ดังนั้น จึงถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่เฟดจะศึกษาทางเลือกในการดำเนินนโยบาย

• นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เฟดควรปรับตัขึ้นอัตราดอกเบี้ยจำนวน 3 ครั้งในปีนี้ เพื่อตอบรับกับสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่จะได้รับอานิสงส์จากการปรับลดภาษี รวมไปถึงการปรับนโยบายทางการเงินให้มีความคุมเข้มมากขึ้นหากจำเป็น ขณะที่อัตราว่างงานที่ระดับ 4.1% ในปัจจุบันมีโอกาสจะร่วงลงไปบริเวณ 3.7% ได้ในปีนี้ โดยปราศจากความเสี่ยงจากความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเงินเฟ้อ

• นายแพทริก ฮาเกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดเฟีย แสดงความคิดเห็นว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เพียง 1 หรือ 2 ครั้งในปีนี้ โดยน้อยกว่าที่รายงานคาดการณ์ของเฟดประเมินไว้ 3 ครั้งในปีนี้

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงแห่งสภาคองเกรส ได้มีการประชุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานในปี 2018 โดยนายทรัมป์และทีมบริหารจะมุ่งการดำเนินงานในปีนี้ไปที่การผลักดันนโยบายปรับปรุงระบบการอพยพเข้าประเทศแบบยกเครื่องและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก ขณะที่นโยบายเกี่ยวกับด้านสังคมสงเคราะห์จะถูกเลื่อนออกไปก่อน

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯต้องการที่จะเจรจากับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือผ่านทางโทรศัพท์ โดยหวังว่าการเจรจาดังกล่าวจะเป็นก้าวสำคัญที่จะยุติปัญหาความขัดแย้งระหว่างทั้ง 2 ประเทศในอนาคต

• รัฐบาลเกาหลีเหนือประกาศยอมรับข้อเสนอการจัดเจรจาร่วมกับรัฐบาลเกาหลีใต้ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี ภายหลังจากที่สหรัฐฯและเกาหลีใต้ประกาศเลื่อนการซ้อมรบร่วมออกไปก่อน

โดยเลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า การตอบรับของเกาหลีเหนือถือเป็นสัญญาณที่ดีที่จะพัฒนาไปสู่การจัดการเจรจาร่วมกับสหรัฐฯอย่างสันติ แต่น่าเสียดายที่หัวข้อในการเจรจาครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับการหยุดพัฒนาอาวุธ แต่เป็นการการเจรจาเกี่ยวกับการจัดกีฬาโอลิมปิคและหัวข้ออื่นๆ

ทั้งนี้ การเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะเกิดขึ้นในวันอังคารที่จะถึงนี้ โดยจัดขึ้นในหมู่บ้านปันมุนจอม ซึ่งเป็นเขตปลอดทหาร ใกล้ชายแดนระหว่างทั้ง 2 ประเทศ

• ในการประชุมขององค์การสหประชาชาติ ภายใต้หัวข้อกรณีเกิดเหตุประท้วงต่อต้านรัฐบาลขึ้นในประเทศอิหร่าน ตัวแทนจากสหรัฐฯกลับได้รับเสียงต่อต้านจากนานาประเทศเนื่องจากเป็นสหรัฐฯเป็นผู้เรียกร้องให้เกิดการประชุมภายใต้หัวข้อดังกล่าวขึ้น ขณะที่นานาประเทศมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในอิหร่าน เป็นปัญหาภายในประเทศเท่านั้น

• ประธานธนาคารกลางเยอรมนี แสดงความเห็นให้ทางอีซีบีกำหนดเวลาที่ชัดเจนนการสิ้นสุดโครงการเข้าซื้อพันธบัตร ท่ามกลางแนวโน้มการปรับตัวขึ้นของดัชนีราคาที่สดอดคล้องกับเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ

• รายงานล่าสุดจากรอยเตอร์ส ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อในยุโรโซนชะลอตัวลงในเดือนธ.ค. อาจส่งผลให้อีซีบีตัดสินใจที่จะคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปก่อน แม้ว่าดัชนีราคาในเยอรมนี และประเทศเศรษฐกิจรายใหญ่จะมีการขยายตัว

โดยดัชนีราคาในยูโรโซนเดือนธ.ค.ขยายตัวได้ 1.4% เมื่อเทียบรายปี หรืออ่อนตัวลง 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันและอาหารเพียงเล็กน้อย ขณะที่ Core CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้ออีกหนึ่งตัวยังคงทรงตัว 1.1%

• ในดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ยอดการสำรองเงินทุนระหว่างประเทศของธนาคารกลางจีน เพิ่มสูงขึ้นเป็นจำนวน 2.02 หมื่นล้านเหรียญ สู่ระดับ 3.14 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปี 2016 ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจจีนที่ยังคงถูกกดดันจากการเข้าควบคุมการผลิตของภาคโรงงานโดยรัฐบาลจีน และการแข็งค่าของเงินหยวนที่ข่วยกีดกันไม่ให้เงินทุนไหลออกนอกประเทศ

• นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวเรียกร้องให้นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าบีโอเจ คงการใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปเช่นเดิม ขณะที่เปิดเผยว่ายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกให้นายคุโรดะ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าบีโอเจในวาระต่อไปอีก 5 ปีหรือไม่

• ราคาน้ำมันดิบร่วงลงจากระดับสูงสุดในปี 2015 ท่ามกลางกำลังการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 10% จากระดับต่ำสุดในเดือนธ.ค. ประกอบกับภาวะตึงเครียดทางการเมืองในอิหร่าน

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 57 เซนต์ ที่ระดับ 61.44 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากขึข้นไปทำ High บริเวณ 62.21 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่พ.ค. 2015

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 45 เซนต์ หรือคิดเป็น -0.7% ที่ระดับ 67.62 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากไปทำ High นับตั้งแต่พ.ค. 2015 ที่ระดับ 68.27 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com