MTS Help Center

• ในช่วงวันทำการสุดท้ายของปี 2017 ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 118.29 จุด หรือคิดเป็น -0.48% ที่ระดับ 24,719.22 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.52% ที่ระดับ 2,673.61 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด -0.67% ที่ระดับ 6,903.39 จุด

แต่ภาพรวมปีที่แล้วเรียกได้ว่าเป็นปีที่ดีที่สุดของตลาดหุ้นสหรัฐฯนับตั้งแต่ปี 2013 แม้ว่าจะปิดส่งท้ายปีจากการอ่อนตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นกลุ่มการเงินก็ตาม

• สำหรับวันทำการแรกของปีเมื่อคืนนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 104.79 จุด หรือคิดเป็น +0.42% ที่ระดับ 24,824.01 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.83% ที่ระดับ 2,695.79 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +1.5% ที่ระดับ 7,006.9 จุด

ซึ่งในวันทำการแรกของปีตลาดหุ้นสหรัฐฯพลิกกลับมาปิดแดนบวกได้อีกครั้ง และดัชนี Nasdaq สามารถปิดเหนือระดับ 7,000 จุดได้เป็นครั้งแรก ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่มุมมองเชิงบวกว่าปี 2018 จะเป็นปีที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นได้อย่างสดใสต่อในช่วงไตรมาสแรกนี้

• ดัชนี MSCI เปิด +0.1% โดยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องหลังจากดัชนีปิด +1.4% เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงปิดทำการในวันนี้

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นเอเชียสามารถทำ High ใหม่ในรอบทศวรรษ ท่ามกลางปริมาณความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่แข็งแกร่ง หลังตัวเลขภาคการผลิตส่วนใหญ่ในเอเชียประกาศออกมาสดใส จึงช่วยหนุนมุมมองว่าเศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง

• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงปิดทำการเนื่องในวันหยุดเทศกาลปีใหม่

• นักบริหารเงิน ประเมินว่า สัปดาห์นี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.80 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดในประเทศจะให้ความสนใจไปยังการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของไทยประจำเดือนธ.ค. 2560 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการ ตลอดจนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือนธ.ค. ยอดสั่งซื้อของโรงงาน รายจ่ายด้านการก่อสร้างเดือนพ.ย. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามบันทึกการประชุมเฟด และรายงานดัชนี PMI เดือนธ.ค. ของประเทศอื่นๆ ด้วยเช่นกัน