• ตลาดหุ้นสหรัฐฯกับปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ

    28 ธันวาคม 2560 | SET News


อนาคตของตลาดหุ้นสหรัฐฯดูมีท่าทีที่สดใสในปี 2018 เนื่องจากนโยบายปฏิรูปภีที่ตลาดเฝ้ารอมาอย่างยาวนาน จะได้มีผลบังคับใช้เสียที แต่นักลงทุนก็ยังคงมีความระมัดระวังเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้มุมมองอันสดใสนั้นจบสิ้นลงไป

ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 ตลอดทั้งปี 2017 สามารถปรับตัวสูงขึ้นมาได้ถึง 20% ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนมากก็ยังเชื่อว่าทิศทางขาขึ้นของดัชนีจะยังดำเนินต่อไปใน 2018 เนื่องจากได้รับแรงหนุนหลักๆมาจากนโยบายปฏิรูปภาษี

อย่างไรก็ดี ปัจจัยเสี่ยงที่นักลงทุนต้องระมัดระวังสำหรับปี 2018 มีดังต่อไปนี้:

เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป

นักวิเคราะห์บางส่วนชี้ จังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟดนั้น หากดำเนินการผิดจังหวะ ก็อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่สุดในรอบ2 ปี ต้องชะงักลงได้ ขณะที่คาดว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปี 2018

การขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อ

นักวิเคราะห์บางส่วนมีความกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อาจขยายตัวเร็วเกินไปท่ามกลางแรงหนุนจากนโยบายปฏิรูปภาษี สิ่งที่ตามมาคือการที่เฟดจำเป็นต้องเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามมา

การเลือกตั้งกลางวาระ และความไม่มั่นคงทางการเมือง

บรรดานักลงทุนจะให้ความสนใจไปยังการเลือกตั้งกลางวาระ ซึ่งหากพรรคเดโมแครตสามารถช่วงชิงเสียงข้างมากในรัฐสภาไม่ว่าจะในส่วนของ ส.ส. หรือ ส.ว. กลับมาจากรีพับลิกันได้ ก็จะส่งผลในเชิงลบต่อตลาดหุ้นอย่างรุนแรง เนื่องจากการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจต้องหยุดชะงักลง

ความตึงเครียดระหว่างประเทศที่อาจเลวร้ายลง

ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับเศรษฐกิจมาตลอดช่วงปี 2017 แม้ตลาดจะสลัดความกังวลจากประเด็นดังกล่าวมาได้บ้าง แต่ในปี 2018สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างประเทศก็มีแนวโน้มสูงที่จะกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นในคาบสมุทรเกาหลี หรือตะวันออกกลาง

นอกจากนี้ ภายในปี 2018 จะมีการเลือกตั้งสำคัญของประเทศอิตาลี เม็กซิโก และบราซิลอีกด้วย

ความผันผวนระดับสูงกับความเชื่อมั่นของนักลงทุน

นักวิเคราะห์บางส่วน คาดว่า ผลประกอบการภาคบริษัทสหรัฐฯจะปรับตัวสูงขึ้นในปีหน้า เนื่องจากแผนปฏิรูปภาษี แต่บางส่วนกลับกังวลว่าแผนดังกล่าวอาจไม่เพียงพอต่อการปรับตัวขึ้นได้

ข้อมูลจาก Thomson Reuters ชี้ว่า ดัชนี S&P500 มีการซื้อขายที่ตอบรับกับข้อมูลผลประกอบการจำนวน 18.5 ครั้ง และไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2002 ได้ แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็อาจมีความกังวลเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

จากรูปแบบของ Citit's panic/euphria กำลังส่งสัญญาณว่ามีโอกาสกว่า 60% ที่ตลาดอาจเป็นขาลงได้ในปีหน้า ท่ามกลางสภาวะการเคลื่อนไหวอย่างผันผวนที่ยังต้องเฝ้าระวัง


การปรับร่วงของมูลค่าสกุลเงินดิจิตอล

สกุลเงินดิจิตอล โดยเฉพาะ Bitcoin ที่ปรับร่วงลงอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปีนี้ มีแนวโน้มจะสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นสหรัฐฯได้เช่นกัน โดยนักวิเคราะห์มองว่า หากราคา Bitcoinปรับร่วงลงไปอีก ก็มีแนวโน้มจะฉุดตลาดหุ้นสหรัฐนลงไปด้วยได้


ที่มา: CNBC

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com