
· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ยกเว้นค่าเงินเยนและสวิสฟรัง์ โดยตลาดถูกจำกัดจากกลุ่มนักลงทุนที่ตอบรับกับแผนภาษีสหรัฐฯไปแล้ว แต่กำลังรอคอยการเซ็นต์ลงนามอนุมัติเป็นตัวบทกฎหมายโดย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันศุกร์นี้
ดัชนีดอลลาร์เช้านี้เปิดร่วงลงต่อมาที่ระดับ 93.316 จุด เมื่อเทียบกับระดับปิดเมื่อคืนนี้บริเวณ 93.351 จุด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่มี.ค. และทรงตัวในเช้านี้ที่ระดับ 2.49%
ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.3% ที่ระดับ 1.1879 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าขึ้นแตะระดับ 113.39 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์
· ส.ส. พรรครีพับลิกันได้รับชัยชนะในการลงมติแก้ไขร่างนโยบายปฏิรูปภาษีอีกครั้งหนึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา จึงนับได้ว่าเป็นความสำเร็จในการผลักดันนโยบายปฏิรูปภาษีตามที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ให้สัญญาไว้ ซึ่งนายทรัมป์จะมีการลงนามอณุมัติร่างกฏหมายภาษีภายในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ในการลงมติเมื่อคืนที่ผ่านมา รีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากในสภา ส.ส. ด้วยจำนวน 224 ต่อ 201 เสียง ขณะที่การลงมติในสภา ส.ว. รีพับลิกันครองเสียงข้างมากที่ 51 ต่อ 48เสียง
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรับฯ ข่มขู่จะยกเลิกเงินทุนช่วยเหลือสำหรับประเทศในองค์การสหประชาชาติ ที่ยกมือสนับสนุนให้ปฏิเสธการแต่งตั้งให้นครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล
· ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ พบว่า จำนวนยอดขายบ้านมือสองปรับตัวขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ย. แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 11 ปี จึงเป็นปัจจัยที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดที่อยู่อาศัย
· สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 53 เซนต์ ที่ระดับ 58.09 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 76 เซนต์ ที่ระดับ 64.56 เหรียญ/บาร์เรล โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ปรับตัวลดลงเกินคาด ประกอบกับการปิดท่อส่งน้ำมันในทะเลเหนือ
· รายงานจาก EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 6.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกแก๊สโซลีนปรับเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล ท่ามกลางกิจกรรมโรงกลั่นน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น
