• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 19 ธันวาคม 2560

    19 ธันวาคม 2560 | Economic News

  

• ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวบริเวณ 93.673 จุด เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่ ท่ามกลางตลาดที่กำลังประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อภาพรวมเศรษฐกิจภายใต้นโยบายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ที่พรรครีพับลิกันเชื่อมั่นว่าจะสามารถผ่านการลงมติคืนนี้ได้อย่างแน่นอน

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยน ปรับแข็งค่าขึ้น 0.1% บริเวณ 112.63 เยน/ดอลลาร์ โดยยังคงเคลื่อนในกรอบระหว่างจุดสูงสุดของสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับ 113.750 เยน/ดอลลาร์ และจุดต่ำสุดของเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ระดับ 112.035 เยน/ดอลลาร์

ด้านค่าเงินยูโร ปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยบริเวณ 1.1789 ยูโร/ดอลลาร์

ขณะที่ราคา Bitcoin ปรับสูงขึ้น 0.2% บริเวณ 18,952.51 เหรียญ โดยเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดของเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่ระดับ 19,666 เหรียญ

• เมื่อวานนี้สหรัฐฯใช้สิทธิ์วีโต้ ปฏิเสธการลงมติขององค์การสหประชาชาติ (U.N.) ที่ตัดสินไม่อนุมัติให้สหรัฐฯรับรองให้นครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอลภายใต้คำสั่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยสมาชิกคณะรัฐมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติทั้ง 14 ชาติ ล้วนประกาศไม่ให้การสนับสนุนมาตรการดังกล่าวของสหรัฐฯ พร้อมแสดงความเสียใจต่อแนวคิดการเปลี่ยนแปลงสถานะของนครเยรูซาเลม ซึ่งถือเป็นนครศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม

• พรรครีพับลิกันแห่งสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่าการลงมติร่างนโยบายปฏิรูปภาษีจะประสบความสำเร็จ หลัง ส.ว. รีพับลิกันอีก 2 คน ประกาศจะให้การสนับสนุนร่างนโยบายฉบับ Final ที่ได้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นผู้หนุนหลังนี้

นางซูซาน โคลลินส์ และ นายไมค์ ลี ส.ว.รีพับลิกัน ทั้ง 2 คน ประกาศยืนยันจะให้การสนับสนุนการลงมติร่างนโยบายปฏิรูปภาษีที่สามารถผ่านการเจรจาผนวกร่างนโยบายของทั้งฝ่ายสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร และฝ่ายสมาชิกวุฒิสภาเข้าด้วยกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

การลงมติจะเริ่มต้นขึ้นในคืนนี้ เวลาประมาณ 01.30 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยจะเริ่มการลงมติในสภาผู้แทนราษฏรก่อน สำหรับการลงมติในสภาสมาชิกวุฒิจะตามมาภายหลังจากนั้นในวันเดียวกันหรือวันรุ่งขึ้น

• ประธานฝ่ายบริหารของ Blockchain กล่าวกับสำนักข่าว CNBC ชี้ว่า ธนาคารกลางต่างๆทั่วโลกจะเริ่มเข้าถือครองสกุลเงินดิจิตอลในปีหน้า เพื่อมาเป็นส่วนหนึ่งในงบดุลบัญชี ซึ่งทางธนาคารกลางต่างๆ อาจมีการเข้าซื้อ Bitcoin และ Ethereum เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสัดส่วนการสำรอง เช่นเดียวกับที่ถือครองทองคำและสกุลเงินต่างประเทศ เพื่อใช้ในกรณีที่ตลาดประสบภาวะตื่นตระหนก อันจะเห็นได้ว่า การเพิ่มการถือครอง Bitcoin เพิ่มขึ้นเพื่อเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ อาจสะท้อนถึงกลุ่มผู้กำหนดนโยบายการเงินที่เริ่มต้นเข้าถือครอง Cryptocurrency แล้วนั่นเอง

• นายนิค อัลเลน ผู้บริหารองค์กร Control Risks ในยุโรปและแอฟริกา กล่าวว่า ปี 2018 จะมีความไม่มั่นคงทางการเมืองต่อเนื่องจากในปีนี้ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นอีกด้วย

“สิ่งที่เราได้เห็นไปได้ปี 2017 นี้ เป็นเพียงแค่การวางฐานของการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต ดังนั้นบรรดาธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวให้ได้” นายนิคกล่าว

สิ่งทีตลาดให้ความสนใจในปัจจุบัน คือแนวโน้มความรุนแรงของการเมืองที่จะเกิดขึ้นต่อไปในปี 2018 ขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้สามารถขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง แม้จะมีกระแสความไม่มั่นคงทางการเมืองค่อนข้างมาก อย่างเช่น ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ชอบทำอะไรพึลึกๆ ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และการทดสอบขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ

• กำหนดการโหวตแผนภาษีในคืนนี้ มีขึ้นหลังจากที่คณะกรรมาธิการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบทางการเงินของสภาผู้แทนราษฎรได้ร่วมหารือกันเมื่อวานนี้เพื่อกำหนดกระบวนการต่อไปในการพิจารณาร่างภาษี

โดยรายงานจาก CNN ระบุว่า ทางส.ส. คาดว่าจะลงมติต่อร่างกฎหมายดังกล่าวก่อนในวันนี้ และทางส.ว. ถูกคาดว่าจะลงมติเป็นลำดับต่อไป ซึ่งการโหวตขั้นสุดท้ายจึงจะเกิดขึ้นในคืนนี้หรือวันพรุ่งนี้

• รัฐบาลญี่ปุ่นยืนยันที่จะร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อขยายระบบการป้องกันขีปนาวุธภายในประเทศญี่ปุ่น เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ โดยอาศัยยุทโธปกรณ์รุ่นล่าสุดจากสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ

• รัฐบาลญี่ปุ่นปรับคาดการณ์อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปีทางบัญชี (fiscal year) สำหรับปีนี้และปีหน้า โดยคาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะสามารถขยายตัวได้ 1.9% และ 1.8% ตามลำดับ ท่ามกลางความแข็งแกร่งของปริมาณอุปสงค์ภายในประเทศ

นอกจากนี้ ยังได้ปรับคาดการณ์การขยายตัวของราคาผู้บริโภคสำหรับปีนี้และปีต่อไป ที่ระดับ 0.7% และ 1.1% ตามลำดับ ซึ่งยังคงห่างไกลจากเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่น รวมถึงปรับคาดการณ์การขยายตัวของดุลการค้าภายในประเทศ (GDP) สู่ระดับ 1.5% และ 1.4% ตามลำดับ

• ธนาคารโลกหรือ World Bank ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2017 ที่ระดับ 6.8% จากคาดการณ์เดิมเดือน ต.ค. ที่ 6.7% แต่คงคาดการณ์การขยายตัวในปี 2018 และ 2019 ไว้เท่าเดิมที่ระดับ 6.4% และ 6.3% ตามลำดับ ท่ามกลางนโยบายการเงินที่ไม่มากนัก และความพยายามในการควบคุมสินเชื่อและควบคุมอัตราทดของรัฐบาลจีน ซึ่งปัจจัยเสี่ยงขาลงนั้นยังคงเป็นการเพิ่มขึ้นของอัตราทดในภาคธุรกิจที่ไม่ใช่การเงินและความไม่แน่นอนโดยทั่วไปของราคาที่อยู่อาศัย

• ผลสำรวจภาคอุตสาหกรรมในประเทศอังกฤษ พบว่า บรรดาผู้ประกอบการมากกว่า 51% มีแนวโน้มที่จะขยายการจ้างงานและปรับขึ้นอัตราค่าจ้างในปี 2018 เทียบกับระดับ 41% ของผลสำรวจเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะ Brexit ที่อาจทำให้ธุรกิจของอังกฤษซบเซาลงกดดันความเชื่อมั่นของบรรดาผู้ประกอบการอยู่

• นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชะลอแผนการเดินทางเยือนประเทศอียิปต์และอิสราเอล จากเดิมที่จะเดินทางในสัปดาห์นี้ เปลี่ยนเป็นเดินทางวันที่ 14 มกราคม ปี 2018 แทน เนื่องจากต้องการจับตาดูการลงมตินโยบายปฏิรูปภาษีในสภาวุฒิสมาชิก

ทั้งนี้ นายเพนซ์ อาจเป็นตัวแปรสำคัญในการออกคะแนนเสียงตัดสิน ว่าร่างนโยบายปฏิรูปภาษีจะสามารถผ่านการลงมติในสภาวุฒิสมาชิกได้หรือไม่ หากเสียงในลงมติมีจำนวนเท่ากันทั้ง 2 ฝั่ง

• ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางการปิดเพื่อซ่อมบำรุงท่อส่งน้ำมัน Forties ในทะเลเหนือ รวมถึงแรงหนุนจากมาตรการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของประเทศในกลุ่มโอเปก แต่ปริมาณการผลิตน้ำมันที่สูงขึ้นในสหรัฐฯยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันอยู่

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 0.3% บริเวณ 57.33 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้น 0.2% บริเวณ 63.55 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com