
เมื่อวานนี้สหรัฐฯใช้สิทธิ์วีโต้ ปฏิเสธการลงมติขององค์การสหประชาชาติ (U.N.) ที่ตัดสินไม่อนุมัติให้สหรัฐฯรับรองให้นครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอลภายใต้คำสั่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยสมาชิกคณะรัฐมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติทั้ง 14 ชาติ ล้วนประกาศไม่ให้การสนับสนุนมาตรการดังกล่าวของสหรัฐฯ พร้อมแสดงความเสียใจต่อแนวคิดการเปลี่ยนแปลงสถานะของนครเยรูซาเลม ซึ่งถือเป็นนครศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม
มาตรการที่บรรดารัฐมนตรีจากสหประชาชาติใช้อ้างถึงในการปฏิเสธการตัดสินของสหรัฐฯ ได้บัญญัติไว้ว่า “การประกาศเปลี่ยนแปลงสถานะใดๆของนครเยรูซาเล็ม จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการขององค์การสหประชาติ ไม่เช่นนั้น จะถือว่าการประกาศดังกล่าว ไม่มีผลทางกฏหมายใดๆทั้งสิ้น”
ทั้งนี้ นายทรัมป์ เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ประกาศให้นครเยรูซาเล็ม เป็นหลวงของชาวอิสราเอล ภายใต้อำนาจประธานาธิบดีของเขา ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาจากนานาประเทศอย่างรุนแรง รวมถึงภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ ในฐานะตัวกลางในการยับยั้งความขัดแย้งระหว่างชาวอิสราเอลและปาเรสไตน์ ที่เริ่มสั่นคลอนภายหลังการประกาศดังกล่าว เนื่องจากเป็นการเปรียบเสมือนว่า สหรัฐฯได้เข้าข้างชาวอิสราเอลเสียมากกว่า
ภายหลังจากการใช้สิทธ์วีโต้ของสหรัฐฯ บรรดาคณะรัฐมนตรีจากประเทศในตะวันออกกลาง จะมีการหารือกันอีกครั้งว่าจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐฯเช่นไร
ที่มา: Reuters