MTS Help Center

• ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.2% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่บริเวณ 112.170 เยน/ดอลลาร์ ท่ามกลางความกุงวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัวที่บริเวณ 1.1787 ยูโร/ดอลลาร์ หลังอีซีบีประกาศจะคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินออกไปก่อนเท่าที่จำเป็น

ค่าเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันหลังส.ว. รีพับลิกันจำนวน 2 คน ประกาศจะไม่สนับสนุนร่างนโยบายฉบับล่าสุด

•  นายวลาดิเมีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศจะลงเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกวาระ ในช่วงต้นปี 2018 ในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้งอิสระ โดยไม่ขึ้นตรงกับพรรค United Russia party ของเขา

ทั้งนี้ สภารัสเซียมีมติจะจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีขึ้นในวันที่ 18 มีนาคม ปี 2018

•  คณะกรรมการประจำธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.5% ด้วยคะแนนเสียง 9-0 ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ สิ่งที่ตลาดจะให้ความสนใจต่อไปคือสัญญาณการขยายตัวอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง จึงเป็นปัจจัยที่กดดันให้ธนาคารกลางอาจต้องพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อลดระดับค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูงในปัจจุบัน

หลังจากที่ตลาดทราบข่าว ค่าเงินปอนด์อังกฤษเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ได้ปรับอ่อนค่าลงไปที่บริเว๊ 1.3413 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.3446 ปอนด์/ดอลลาร์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษปรับลดลงไปบริเวณ 1.214% จากบริเวณ 1.206%

•  ยอดส่งออกของญี่ปุ่นประจำเดือนพฤศจิกายน ที่จะเปิดเผยข้อมูลในวันจันทร์นี้ ถูกคาดการณ์ว่าจะขยายตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12 ที่ระดับ 14.6% เทียบกับระดับ 14% ของเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางปริมาณอุปสงค์ในรถยนตร์ที่แข็งแกร่งจากต่างประเทศ รวมถึงอุปสงค์ในสินค้าประเภทเซมิคอนดักเตอร์และโลหะอุตสาหกรรม

•  ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางแรงหนุนจากปิดซ่อมบำรุงท่อส่งน้ำมัน Forties และมาตรการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันที่สูงขึ้นในสหรัฐฯยังคงกดดันราคาไม่ให้ขึ้นไปสูงกว่านี้

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 14 เซนต์ บริเวณ 57.18 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้น 3 เซนต์ บริเวณ 63.34 เหรียญ/บาร์เรล

•  บรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดน้ำมัน ต่างคาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯจะขยายตัวขึ้นอีกในปี 2018 แต่สำหรับการคาดการณ์ปริมาณน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นนั้นแตกต่างกันออกไป

ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณการขุดเจาะในสหรัฐฯมีความผันผวนสูง จึงเป็นเรื่องยากที่จะสามารถคาดการณ์ปริมาณน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต