• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 4 ธันวาคม 2560

    4 ธันวาคม 2560 | Economic News

  

· ค่าเงินดอลลาร์ดีดกลับแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์วันนี้ เช่นเดียวกับสัญญาอนุพันธ์ S&P ที่ปรับตัวขึ้น หลังวุฒิสภาผ่านร่างภาษีในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงยิ่งเพิ่มโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

อย่างไรก็ดี เทรดเดอร์กำลังให้ความสำคัญกับกำหนดการประชุมของ นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายฌอง คลอร์ด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการของอียูเกี่ยวกับข้อตกลงBrexit

ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก มาแถวระดับ 93.30 จุด ทางด้านค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.15% มาที่ระดับ 1.18417 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์อังกฤษทรงตัวหลังสื่อรายงานว่าข้อตกลง Brexit ใกล้บรรลุเงื่อนไขของข้อตกลงร่วมกันได้แล้ว

ด้านค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าขึ้นมาแถวระดับ 112.98 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่่ 17 พ.ย. จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วขึ้น ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจใกล้เป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มรูปแบบ

· ผู้อำนวยการนักกลยุทธ์ฝ่ายการตลาดประจำสถาบัน IG กล่าวว่า หากคุณเห็นว่าแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีหน้ามีแนวโน้มที่เฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้รวดเร็วขึ้นก็น่าจะเป็นผลลบต่อตลาดเกิดใหม่ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่แท้จริงมีแนวโน้มจะปรับขึ้นต่อ ควบคู่กับการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ที่อาจส่งผลให้ตลาดเกิดใหม่และเอเชียประสบภาวะชะลอตัวได้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.806% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับขึ้นแตะ 2.4026%

· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสผ่านทวิสเตอร์ โดยอ้างว่าเขาไม่เคยเรียกร้องให้นายเจมส์ โคย์มี อดีตผู้อำนวยการที่ถูกสั่งปลดจากตำแหน่งไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยุติการสืบสวนนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคง แต่อย่างใด

· กองทัพสหรัฐฯและเกาหลีใต้จัดการซ้อมรบทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดร่วมกัน เพียง 1 สัปดาห์หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทำการยิงทดสอบขีปนาวุธลูกใหม่ โดยการซ้อมรบจะดำเนินการไปจนถึงวันศุกร์นี้ ท่ามกลางความกังวลว่าการซ้อมรบอาจส่งผลให้ตึงเครียดกับเกาหลีเหนือเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ ปฏิบัติการซ้อมรบดังกล่าว จัดขึ้นภายใต้ชื่อ Vigilant Ace ซึ่งเข้าร่วมโดยอากาศยานกว่า 230 ลำจากทั้งกองทัพสหรัฐฯและเกาหลีใต้

· นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีกำหนดการจะเจรจากับตัวแทนจากสหภาพยุโรป ในหัวข้อเกี่ยวกับ Brexit ภายในวันนี้ โดยนางเมย์และสมาชิกจากสหภาพยุโรปล้วนมีความเชื่อมั่นว่าการเจรจาวันนี้จะมีความคืบหน้าอย่างแน่นอน

· นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น เรียกร้องให้สถาบันทางการเงินปฏิรูปโครงสร้างทางภาคธุรกิจเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพของเทคโนโลยีทางการเงิน และอาจเป็นปัจจัยกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของตลาดการเงินทั่วโลก

นอกจากนี้ นายคุโรดะ ยังกล่าวในที่ประชุม Europlace Financial Forum โดยระบุว่า ระบบ Fintech สามารถช่วยเพิ่มศักยภาพทางการขยายตัวของเศรษฐกิจและเพิ่มโอกาสทางสังคมไม่เพียงแต่ในประเทศเกิดใหม่ แต่จะรวมไปถึงกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยเช่นกัน

· คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของจีน เปิดเผยว่า เป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนสำหรับปี 2018 จะสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ต่อสภาพเศรษฐกิจ ท่ามกลางรัฐบาลที่ย้ำชัดถึงการเพิ่มการพัฒนาให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ การขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนเติบโตอยู่ที่ 6.7% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรบอ 26 ปี ก่อนจะที่จกลับมาขยายตัวได้ 6.9% เป็นครั้งแรกในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

อย่างไรก็ดี ภาพรวมผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์จาก Reuters ยังคงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนปีหน้ามีโอกาสชะลอตัวลงมาที่ระดับ 6.4% จากมาตรการจำกัดการเพิ่มขึ้นของราคาที่อยู่อาศัย และความพยายามผลักดันข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงทางระดับหนี้สินที่ดูจะเป็นปัจจัยถ่วงเศรษฐกิจ

· ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง หลังสหรัฐฯมีการเพิ่มปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันเพิ่มอีก 2 แห่ง รวมเป็นทั้งหมด 749 แห่ง แต่ราคายังคงมีแรงหนุนจากการขยายระยะเวลาของมาตรการลดกำลังการผลิตโดยกลุ่มโอเปกและบรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันอื่นๆ

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 0.8% ที่ระดับ 57.90 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 0.6% ที่ระดับ 63.34 เหรียญ/บาร์เรล

· สำนักข่าว CNN รายงานว่า ส่วนหนึ่งของร่างนโยบายปฏิรูปภาษีของส.ว.รีพับลิกัน ที่สามารถผ่านการลงมติในสภามาได้เมื่อวันเสาร์ มีการกล่าวถึงการอนุมัติให้สามารถขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่ของรัฐอะแลสกา ที่มีพื้นที่สำหรับขุดเจาะน้ำมันมากกว่า 1.5 ล้านเอเคอร์ ซึ่งถูกสั่งห้ามไปเมื่อปี 1980 เนื่องจากกังวลว่าการขุดเจาะน้ำมันอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศที่บอบบาง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com