- ผู้เชี่ยวชาญชี้ ความสัมพันธ์ระหว่างซีเรีย-เกาหลีเหนือที่มีมานานนับทศวรรษ จะความความปวดหัวให้กับสหรัฐฯ
- เชื่อว่าเกาหลีเหนือมีส่วนช่วยในการพัฒนาขีปนาวุธของซีเรียมานานนับปี
- สหประชาติสามารถดักจับการขนส่งอาวุธเคมีจากเกาหลีเหนือสู่ซีเรียได้ถึง 2 ครั้งในปีนี้
ประเทศซีเรียและเกาหลีเหนือ ได้มีการค้าขายร่วมกันมายาวนานนับตั้งแต่ปี 1960 และยิ่งดูมีท่าทีจะรุ่งเรืองมากขึ้นในปัจจุบัน แม้ทั้ง 2 ประเทศจะถูกทั่วโลกคว่ำบาตรก็ตาม โดยรายงานข่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่า รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของซีเรียได้พบกับเอกอัคราชฑูตจากเกาหลีเหนือ เพื่อเจรจาในหัวข้อการยกระดับการค้าระหว่างท้ง 2 ประเทศ ซึ่งทางเกาหลีเหนือแสดงความต้องการจะสนับสนุนโครงการฟื้นฟูประเทศของรัฐบาลซีเรียอีกด้วย
การพบกันของ 2 ประเทศ ไม่ถือเป็นสัญญาณที่ดีนักต่อคณะบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เนื่องจากพวกเขากังวลว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ไม่ได้แค่ต้องการจะหาผลกำไรจากการค้ากับซีเรียที่มีสงครามกลางเมืองมาติดต่อกันถึง 6 ปี แต่กำลังเรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสงครามครั้งนั้นอีกด้วย
องค์กรสหประชาชาติ รายงานว่า การส่งออกสินค้าจากเกาหลีเหนือสู่ประเทศซีเรีย ประกอบด้วยชิ้นส่วนสำหรับเครื่องยนต์ขับเคลื่อนขีปนาวุธ ชุดป้องกันสารเคมี และเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งมีการค้าขายกันมานานนับปี และคาดว่าเกาหลีเหนือจะมีการส่งออกสู่ซีเรียมากขึ้น เนื่องด้วยการคว่ำบาตรจากนานาประเทศอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีข้อกล่าวหาที่ว่าเกาหลีเหนือ ได้สร้างโรงงานนิวเคลียร์ให้กับซีเรีย แม้โรงงานดังกล่าวจะถูกทำลายไปในการโจมตีทางอากาศโดยกองทัพอิสราเอลเมื่อปี 2007 ก็ตาม ซึ่งรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
สำนักข่าว Reuters เผย เอกสารลับจากองค์กรสหประชาชาติ ที่ระบุว่าสามารถดักจับการขนส่งสินค้าจากเกาหลีเหนือ สู่รัฐบาลซีเรียได้ถึง 2 ครั้งภายในปีนี้ โดยพบว่าสินค้าดังกล่าว คือส่วนประกอบสำคัญของอาวุธชีวภาพที่เป็นโครงการของรัฐบาลซีเรีย
นอกจากนี้ ยังคาดว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือมีการครอบครองอาวุธชีวภาพไว้เป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ VX nerve agent ที่เป็นสารพิษอันตราย ที่ต้องสงสัยว่าผู้นำเกาหลีเหนือได้สั่งให้ใช้สารพิษดังกล่าว ลอบสังหารนายคิม จอง-นัม พี่ชายต่างมารดาของตน เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาอีกด้วย จึงเป็นการสร้างความกังวลให้ทั่วโลก ว่าเกาหลีเหนือมีจะส่วนสำคัญต่อศักยภาพทางอาวุธชีวภาพของซีเรียอีกด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯก็มีความพยายามที่จะกดดันเกาหลีเหนือผ่านการคว่ำบาตรมาโดยตลอด และบางครั้งก็มีการส่งสัญญาณถึงการเคลื่อนไหวทางทหารเพื่อเป็นการข่มขู่เกาหลีเหนือให้ระงับโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ขณะที่ทางด้านรัฐบาลซีเรีย แม้สหรัฐฯจะมีการส่งกองกำลังเพื่อเข้าแทรกแซงสงครามกลางเมืองซีเรียร่วมกับประเทศอื่นๆเมื่อปี 2014 ก็ตาม แต่คณะบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า ไม่น่าจะสามารถยื่นมือเข้าไปแทรกแซงได้มากไปกว่าการกำจัดกลุ่มผู้ก่อการร้าย IS แล้ว