MTS Help Center

  

• ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาณ์ และยังทรงตัวในทิศทางแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลักส่วนใหญ่ ท่ามกลางความแข็งแกร่งของข้อมูลความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี ประกอบกับการ่ผอนคลายภาวะความตึงเครียดทางการเมืองที่จะอาจสร้างความไม่มีเสถียรภาพให้ก่เศรษฐกิจของเยอรมนีนั้นลดน้อยลงไป

ค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.1929 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนบริเวณ 1.1946 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ทางด้านดัชนีดอลลาร์ทรงตัวบริเวณ 92.801 จุด หลังลงไปทำระดับต่ำสุดนับบริเวณ 92.675 จุด

ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงประมาณ 0.15% ที่ระดับ 111.35 เยน/ดอลลาร์ หลังจากทีวันพฤหัสทำระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 2 เดือนที่ระดับ 111.07 เยน/ดอลลาร์

• นายโดนัลด์ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศถึงความพยายามในการปฏิรูปภาษีที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคคอมมิวนิสต์ ในขณะที่วุฒิสภารีพับลิกันผลักดันนโยบายให้เข้าสู่ขั้นตอนต่อไปได้ในสัปดาห์นี้

นายทรัมป์ได้ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ หลังจากที่เขาได้กลับมาทำงานตามปกติเนื่องในวันหยุดขอบคุณพระเจ้าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้อความระบุว่า “เป็นสัปดาห์ที่สำคัญในการดำเนินนโยบายปฏิรูปภาษีรวมถึงสิ่งดีๆอีกหลายอย่างในประเทศ ทั้งนี้ เขาหวังว่า สมาชิกรีพับลิกันจะให้ความร่วมมือกันเพื่อประชาชนทุกคน”

• ผลสำรวจโดยสำนักข่าว Reuters แสดงให้เห็นว่า เขตเศรษฐกิจแนวหน้าส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะเข้าสู่ปี 2018 ด้วยทิศทางขาขึ้นที่แข็งแกร่ง เมื่อพิจารณาจากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่เปิดเผยออกมาของแต่ละเขตเศรษฐกิจ

จะเห็นได้ว่า ดัชนี PMI ของผู้ผลิตในเศรษฐกิจยูโรโซนปรับสูงขึ้นสู่ระดับ 60.0 จุดในเดือนพฤศจิกายน เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 58.3 จุด จึงเป็นระดับที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับที่สอง นับตั้งแต่ปี 1997 ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่สามารถยืนเหนือระดับ 50 จุดขึ้นไป บ่งชี้ถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

• นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ประกาศให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการ “ปฏิรูป” ห้องสุขาสาธารณะภายในประเทศ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน และดึงดูดนักท่องเที่ยว

• สำนักข่าว Reuters เผย ข้าราชการระดับสูง 3 ราย ในสำนักคุ้มครองผู้บริโภคเห็นด้วยว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีอำนาจที่จะสามารถแต่งตั้งประธานสำนักคุ้มครองผู้บริโภคได้ แม้รองประธานของสำนักคุ้มครองผู้บริโภคจะไม่เห็นด้วยก็ตาม

• สำนักสถิติประประเทศจีนเผย ผลประกอบการของภาคอุตสาหกรรมในประเทศปรับเพิ่มขึ้น 25.1% ในเดือนตุลาคม คิดเป็นผลกำไรประมาณ 7.454 แสนล้านหยวน (1.1294 แสนล้านเหรียญ) ซึ่งเป็นเดือนที่ภาคอุตสาหกรรมมีผลประกอบแข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของปี 2017 ชะลอตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระดับ 27.7% ในเดือนกันยายน ท่ามกลางราคาสินค้าโภคภันฑ์ที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ธุรกิจเหมืองแร่และอุตสาหกรรมหนักมีผลประกอบที่แข็งแกร่งที่สุด

• สถาบันวิจัยประจำประเทศจีน ตรวจสอบการเพิ่มขึ้นของมลพิษในอากาศกว่า 272 เมือง ในช่วงปี 2013 – 2015 แสดงให้เห็นหลักฐานที่อาจเป็นอันตรายต่อระบบกล้ามเนื้อหัวใจและระบบหายใจ ที่อาจนำไปสู่การเสียชีวิตของประชาชนที่ร่างกายอ่อนหรือแพ้มลภาวะในอากาศได้

• เจ้าหน้าที่กำกับดูแลการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าในส่วนภาคบริการของจีนลดลงสู่ระดับ 1.78 หมื่นล้านเหรียญในเดือนต.ค. จากระดับ 2.22 หมื่นล้านเหรียญในเดือนก.ย.

• สำนักข่าว Reuters เผย รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมเพิ่มงบประมาณค่าใช้จ่ายในการลงทุนอีก 2.7-2.9 ล้านล้านเยน (24-26 พันล้านเหรียญ) และจะปล่อยขายพันธบัตรรัฐบาลอีก 1 ล้านล้านเยน ขณะที่ยังไม่มีแผนรองรับสำหรับพันธบัตรควบคุมการขาดดุลของรัฐบาลแต่อย่างใด เนื่องร่างแผนการดังกล่าว ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินงาน

• รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานแห่งประเทศรัสเซีย เผย รัฐบาลไม่มีแผนที่จะลดปริมาณการผลิตน้ำมันในประเทศลง จนกว่าจะถึงปี 2035 รวมถึงไม่มีแผนที่จะลดจำนวนผู้ผลิตภายในประเทศลงแต่อย่างใด ทั้งนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันในปัจจุบันของรัสเซียอยู่ที่ระดับ 550 ล้านตันต่อปี หรือ 11 ล้านบาร์เรลต่อวัน

• ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ท่ามกลางสัญญาณการเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำมันในประเทศ ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกส่วนใหญ่ทรงตัวจากแนวโน้มจากขยายระยะเวลาของมาตรปรับลดกำลังผลิตของกลุ่มโอเปก

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 0.4% ที่บริเวณ 58.72 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบ Brent ทรงตัวที่ระดับ 63.85 เหรียญ/บาร์เรล