• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560

    27 พฤศจิกายน 2560 | Economic News


• ค่าเงินดอลลาร์เมื่อคืนวันศุกร์ ปรับอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. เมื่อเทียบกับเงินยูโร ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่มีความเชื่อมั่นต่อการเติบโตของเศรษฐกิจยูโรโซนมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณอุปสงค์ในค่าเงินดอลลาร์ลดน้อยลง

โดยค่าเงินยูโรเมื่อคืนวันศุกร์ ปรับแข็งค่าขึ้น 0.65% ขณะที่ภาพรวมรายสัปดาห์ปรับแข็งค่าขึ้น 1% ซึ่งเป็นผลประกอบการที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม

ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงสู่ระดับ 92.675 จุด เทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย. สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ ดัชนีปรับอ่อนค่าลงไป1% ซึ่งเป็นผลประกอบการที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย.

• ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรค SPD ของทางเยอรมันมีการกลับสู่การเจรจาเพื่อก่อตั้งพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรค CDU ของนางอังเกลาร์ แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมันอีกครั้ง โดยสมาชิก SPD ชี้ว่า สมาชิกพรรคมีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมพรรคร่วมรัฐบาลกับทาง CDU หากผู้นำ SPD ยอมรับต่อข้อเสนอได้

อย่างไรก็ดี สถาบันจัดอันดับ IFO เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางภาคธุรกิจของเยอรมนีดีขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาที่ระดับ 117.5 จุด จากระดับ 116.6 จุด จึงหนุนให้ค่าเงินยูโรทำ High ในคืนวันศุกร์บริเวณ 1.1944 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.1848 ดอลลาร์/ยูโร

• รายงานจาก CNBC ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงผู้นำเฟดถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ตลาดและนักลงทุนให้ความสำคัญในสัปดาห์นี้ โดย นายเจอโรม โพเวลล์ สมาชิกบอร์ดบริหารของเฟดได้ถูกรับเลือกโดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯเพื่อให้เป็นประธานเฟดคนต่อไป และคาดว่า จะมีการกล่าวยืนยันต่อหน้าคณะกรรมาธิการกำกับดูแลการเงินและการธนาคารวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.) และคาดว่าเขาอาจเตรียมส่งสัญญาณถึงแผนการดำเนินงานของเขาในฐานะผู้นำเฟดคนต่อไป ขณะที่วันต่อมา (29 พ.ย.) นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบันมีกำหนดการที่จะกล่าวถ้อยแถลงทางด้านเศรษฐกิจที่สภาคองเกรส ก่อนเข้าสู่การรายงานต่อคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจของสภาคองเกรส (JEC)

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ มองว่า การมาของนายโพเวลล์ ไม่น่าจะแตกต่างจากนางเยลเลนมากนัก แต่ก็ต้องระวังเกี่ยวกับสิ่งที่เขาจะสื่อถึงนโยบาย QE และการใช้เครื่องมือทางการเงินในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนตั้งข้อสังเกตว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือเหมือนเยลเลนหรือไม่ เนื่องจากถูกคาดว่าเขามีแนวโน้มจะเน้นไปยังการผ่อนคลายกฎข้อกำหนดของภาคธนาคารมากขึ้น

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อคืนวันศุกร์ ได้เลือกให้นายมิค มัลวานี (Mick Mulvaney)หัวหน้าฝ่ายงบประมาณประจำทำเนียบขาว เพื่อดำรงตำแหน่งประธานสำนักคุ้มครองผู้บริโภคเป็นการชั่วคราว หลังจากที่นายริชาร์ด คอร์เดรย์ (Richard Cordray) ลาออกจากตำแหน่งในคืนวันเดียวกันนั้น

อย่างไรก็ดี นางเอลิซาเบท วาเรน (Elizabeth Warren) ส.ว.พรรคเดโมแครตโต้แย้งการแต่งตั้งดังกล่าว เนื่องจากผิดกฏหมายดอด-แฟรงก์ พร้อมระบุว่า นางรีอันดรา อิงริช (Leandra English) รองประธานสำนักคุ้มครองผู้บริโภค จะดำรงตำแหน่งประธานสำนักผู้บริโภคชั่วคราวไปก่อน จนกว่าจะมีลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์จากสมาชิกวุฒิสภาตามที่กฏหมายระบุ

นอกจากนี้ นางเอริซาเบทยังระบุอีกว่า การที่นายทรัมป์แต่งตั้งประธานสำนักผู้บริโภคตามอำเภอใจ ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายในรัฐสภาเป็นอย่างมาก และจำเป็นต้องนำเรื่องไปเจรจากับทางศาลยุติธรรม

• ยอดการค้าออนไลน์ของสหรัฐฯในวัน Thanksgiving และ Black Friday เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์มากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 17.9% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7.9 พันล้านเหรียญ นำโดยยอดขายโทรศัพท์มือถือและสินค้าอื่นๆที่มีการลดราคาอย่างน่าดึงดูด

• ปริมาณการซื้อขาย Bitcoin ในช่วงวันหยุด Thanksgiving ที่ผ่านมาขึ้นไปทำระดับสูงสุดเหนือระดับ 9,400 เหรียญในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยภาพรวม Bitcoin เพิ่มขึ้นได้มากกว่า 8%ไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9,484.91 เหรียญ โดยยังคงเป็นการทำ All-Time High อย่างต่อเนื่องได้อีก 485.19 เหรียญจากวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการเข้าซื้อของกลุ่มนักลงทุนรายย่อย

• นายคาร์เลส ปุดจ์เดมองต์ อดีตประธานาธิบดีแคว้นคาตาโลเนียที่ถูกรัฐบาลรัสเซียสั่งปลดออกจากตำแหน่ง กล่าวปราศัยในประเทศเบลเยี่ยมให้กับกุ่ลผู้สนับสนุน โดยนายปุดจ์เดมองต์ เรียกร้องให้รัฐบาลสเปนและสหภาพยุโรปเคารพผลการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นภายในแคว้น วันที่ 21 ธันวาคมนี้

• ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด +1.6% ที่ระดับ 58.95 เหรียญ/บาร์เรล ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางเนื่องในวันหยุดยาวของสหรัฐฯ ในเทศกาล Thanksgiving day ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบBrent ปิด +0.49% ที่ระดับ 63.86 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในแดนบวก ท่ามกลางปริมาณอุปทานน้ำมันในตลาดที่ลดลง หลังจากตรวจพบรอยรั่วในท่อส่งน้ำมันจากแคนาดาสู่สหรัฐฯที่มีปริมาณการส่งน้ำมันคิดเป็น590,000 บาร์เรล/วัน โดยที่ยังไม่เป็นที่ทราบแน่นอนว่าจะกลับมาเปิดใช้งานได้อีกเมื่อไหร่

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com