• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560

    24 พฤศจิกายน 2560 | Economic News


  
• ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวในกรอบแคบๆ ที่บริเวณ 93.153 จุด ท่ามกลางแรงกดดันจากความกังวลของคณะกรรมการเฟดเกี่ยวกับการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่เปิดในรายงานการประชุมประจำเดือนตุลาคม ขณะที่ภาพรวมรายสัปดาห์ ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงไป 0.5%

ด้านค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยน ปรับแข็งค่าขึ้น 0.2% สู่ระดับ 111.46 เยน/ดอลลาร์ในตลาดเอเชีย แต่ในภาพรวมรายสัปดาห์ยังคงปรับอ่อนค่าลง 0.5%

• สำหรับค่าเงินยูโร ทรงตัวที่ระดับ 1.1852 ยูโร/ดอลลาร์ ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ระดับ 1.1862 ยูโร/ดอลลาร์ สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ยังคงปรับแข็งค่าขึ้น 0.5%

• รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานแห่งรัสเซียเผย รัฐบาลรัสเซียยินดีที่จะเจรจาเงื่อนไขสำหรับการขยายระยะเวลาของมาตรการปรับลดกำลังการผลิตร่วมกับกลุ่มโอเปก โดยการประชุมจะเกิดขึ้นในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันที่ 30 พ.ย. นี้

• รายงานจาก CNBC ระบุว่า แม้เกาหลีเหนือจะถูกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มขึ้นจากหลายๆประเทศทั่วโลก แต่เกาหลีเหนือก็ไม่สะทกสะท้านในการดำเนินธุรกิจค้าขายกับต่างชาติ

ตามข้อมูลที่รับบาลเกาหลีใต้เปิดเผย ถึงแม้สถานะความเป็นอยู่ของชาวเกาหลีเหนือจะถูกจำกัด แต่เศรษฐกิจเกาหลีเหนือสามารถเติบโตได้ถึง 3.9% ในปีที่ผ่านมา และยังเป็นอัตราที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 1999 ซึ่งเป็นปีที่เกาหลีเหนือมีการค้าขายกับต่างประเทศอย่างน้อย 80 ประเทศอีกด้วย

อย่างไรก็ดี ยังคงไม่เป็นที่ชัดเจนว่า เศรษฐกิจเกาหลีเหนือในปีนี้สามารถเติบโตได้แข็งแกร่งเพียงไหน ท่ามกลางแรงกดดันจากมาตรคว่ำบาตรจากนานาประเทศที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เพิ่มชื่อเกาหลีเหนือกลับเข้าบัญชีรายชื่อประเทศที่เป็นผู้สนับสนุนการก่อการร้าย

• ธนาคารกลางจีนได้ออกร่างคำแนะนำสำหรับธนาคารพาณิชย์ในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยให้ดีขึ้น

โดยกฎระเบียบใหม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกำหนดในการบริหารความเสี่ยงของธนาคารและให้ธนาคารพาณิชย์ดำเนินการ stress tests จากอัตราดอกเบี้ยและการประเมินสภาพความเสี่ยงเป็นประจำ ซึ่งอาจจะมีผลในเดือนม.ค. ปี 2019

• นายฌอง คล็อด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการ EU กล่าวว่า ในการพบกันระหว่างเขาและนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ จะช่วยทางสหภาพยุโรปได้รับทราบถึงความคืบหน้าในการเจรจา Brexit

• ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หลังจากการปิดใช้งานท่อส่งน้ำมันจากแคนาดาสู่สหรัฐฯ ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในอเมริกาเหนือมีจำนวนลดน้อยลง ขณะที่ปริมาณซื้อขายในตลาดวันนี้เบาบาง เนื่องจากเป็นวันหยุดของสหรัฐฯในวันขอบคุณพระเจ้า

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 0.9% ที่บริเวณ 58.56 เหรียญ/บาร์เรล โดยทำจุดสูงสุดที่ระดับ 58.59 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 15 กรกฏาคม ปี 2015

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับสูงขึ้น 4 เซนต์ สู่ระดับ 63.59 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com