• รายงานการประชุมเฟด: สมาชิกเฟดส่วนใหญ่กังวลการขยายตัวของตลาดการเงิน

    23 พฤศจิกายน 2560 | Economic News


- รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประจำวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการมีความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของตลาดการเงิน

- นอกจากนี้คณะกรรมการยังมีการเจรจาถึงแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวชี้วัดการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้ออีกด้วย

จากรายงานการประชุมเฟดที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ แสดงให้ตลาดเห็นว่า บรรดาคณะกรรมการเฟดส่วนใหญ่มีมุมมองที่ดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่ยังคงมีความกังวลว่าการเติบโตของตลาดเงินอาจหลุดการควบคุมของเฟดไป และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้

ทั้งนี้ คณะกรรมการเฟดมีความคิดเห็นตรงกันว่า การจ้างงานสหรัฐฯ การใช้จ่ายของผู้บริโภค และภาคอุตสาหกรรม ต่างอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง แต่สมาชิกยังคงมีความเห็นที่แตกแยกออกไปเกี่ยวกับการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อ รวมถึงยังมีการเจรจาถึงแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวชี้วัดการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้ออีกด้วย

นอกจากนี้ เฟดยังได้ระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจจะยิ่งสดใสขึ้น หากนโยบายปฏิรูปภาษีสามารถผ่านมติของสภาคองเกรสและมีผลบังคับใช้ได้

อย่างไรก็ดี ในหัวข้อของการประเมินสภาพตลาด บรรดาคณะกรรมการเฟดต่างมีท่าทีระมัดระวังมากขึ้น

ตลาดหุ้นสหรัฐฯในปี 2017 สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งเป็นประวัติการณ์ โดยทำจุดสูงสุดได้อย่างต่อเนื่อง และมีเม็ดเงินเข้ามาในตลาดหุ้นกว่ามากกว่าล้านล้านเหรียญ ซึ่งเกิดจากกระแสคาดการณ์ผลประกอบที่แข็งแกร่งของบรรดาบริษัท ซึ่งที่เกิดจากความหวังในนโยบายปฏิรูปภาษี โดยเฉพาะในเรื่องของการปรับลดภาษีนิติบุคคลลงสู่ระดับ 20% จากเดิมที่ 35%

ซึ่งสมาชิกบางส่วนได้แสดงความกังวลในกรณีที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯเกิดปรับร่วงลงอย่างกระทันหัน แม้ความกังวลดังกล่าวเป็นเรื่องที่สามารถเห็นได้บ่อยๆจากปากคำของสมาชิกเฟดก็ตาม แต่ดูเหมือนสมาชิกบางคนจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับภาวะฟองสบู่ของตลาดหุ้นเสียเท่าไหร่

ทั้งนี้ มีรายงานว่าทาง Bank of America Merrill Lynch ได้วิเคราะห์ว่าการเติบโตของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะสิ้นสุดลงในปี 2018 ขณะที่ทาง Goldman Sachs กลับวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯจะสามารถขยายตัวต่อไปในปี 2018

คณะกรรมการเฟดยังได้แสดงความคิดเห็นอีกว่า “ตลาดแรงงานสหรัฐฯในปัจจุบันอยู่ในสภาวะอิ่มตัวหรือเหนือกว่านั้น ดังนั้น GDP สหรัฐฯจึงมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้เร็วกว่าอัตราการผลิตของประเทศ ขณะที่การชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อเกิดขึ้นจากปัจจัยชั่วคราวเท่านั้น”

อย่างไรก็ดี ไม่ใช่สมาชิกทั้งหมดที่เห็นด้วยกับเรื่องของปัจจัยชั่วคราวที่เป็นตัวกดดันการเติบโตของอัตราเงินเฟ้อ พร้อมเตือนให้ระมัดระวัง ไม่ให้รอคอยให้อัตราเงินเฟ้อขยายตัวนานเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดความเสี่ยงเกี่ยวกับสมดุลของตลาดมากขึ้น

ขณะที่คณะกรรมการบางส่วนแนะนำให้จับตาตัวเลขทางเศรษฐกิจที่จะเปิดเผยต่อไป เนื่องจากจะเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุด ว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯจะสามารถขยายตัวไปถึงระดับเป้าหมาย2% ได้หรือไม่

ในด้านของนโยบายการเงิน ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ กล่าวคือ เฟดได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิม พร้อมส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้ โดยตลาดมองโอกาสถึง 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2018 ณ ปัจจุบัน ตลาดมองไว้ที่จำนวน 1-2 ครั้ง

ทั้งนี้ ในด้านของการดำเนินนโยบายปรับลดพอร์ตงบดุลจำนวน 4.5 ล้านล้านเหรียญ เฟดได้มีการปล่อยขายพันธบัตรเข้าสู่ตลาดตามเพดานที่กำหนดไว้ ซึ่งคณะกรรมทั้งหมดเห็นตรงกันว่าสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นจนถึงปัจจุบัน


ที่มา: CNBC

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com