• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560

    23 พฤศจิกายน 2560 | Economic News


• ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต.ค. เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ขณะที่ภาพรายวันร่วงลงมากที่สุดในรอบ 5 เดือน โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากรายงานประชุมเฟดล่าสุดที่มีสัญญาณเชิงผ่อนคลายทางการเงินจากเจ้าหน้าที่เฟดบางส่วนที่ยังกังวลต่อการอ่อนตัวของเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯก็ออกมาอ่อนแอ ประกอบกับภาพการซื้อขายทางเทคนิคมีสัญญาณอ่อนตัวจึงทำให้ค่าเงินดอลลาร์ร่วงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ Safe-Haven

ดัชนีดอลลาร์ร่วงลง 0.75% ทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 20 ต.ค. โดยเช้านี้ทรงตัวที่ระดับ 93.277 จุด ขณะที่เมื่อเทียบกับค่าเงินเยนดอลลาร์ร่วงลงกว่า 1% ส่งผลให้ค่าเงินเยนกลับแข็งค่ามาที่ระดับ 111.23 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ 20 ก.ย. และเป็นระดับรายวันที่ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าลงมากที่สุดนับตั้งต่ พ.ค. ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 วันทำการบริเวณ 1.1827 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.1731 ดอลลาร์/ยูโร

• นักวิเคราะห์ค่าเงินอาวุโสจาก Westpac กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าก่อนเข้าสู่วันหยุด Thanksgiving ประกอบกับท่าทีของรายงานประชุมเฟดที่มีท่าทีคุมเข้มลดลงแต่มีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่อ่อนตัว จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้นักลงทุนลดการเข้าถือครองดอลลาร์ ขณะที่การมาของประธานเฟดคนใหม่น่าจะยังไม่ดำเนินการใดๆในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2018

• ท่าทีที่ผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้นของเฟดดูจะทำให้เกิดแรงเทขายเข้ามาในอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ที่ร่วงลงเกือบ 0.5% สู่ระดับ 1.727% ซึ่งถือเป็นระดับการปรับตัวลงรายวันที่มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.ย.

• รายงานประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ พบว่า เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายคาดว่าจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้ แม้ว่าในการประชุมเฟดเมื่อ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. เฟดจะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย ขณะที่สมาชิกเฟดส่วนใหญ่มีมุมมองเชิงบวกการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ และมองว่ามีโอกาสมากขึ้นที่สภาคองเกรสจะผ่านกฎหมายปรับลดภาษีที่อาจช่วยหนุนการลงทุนในภาคธุรกิจ แต่ภาพรวมก็เริ่มกังวลว่าตลาดการเงินอาจอยู่นอกเหนือการควบคุมของเฟดและอาจสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจได้

ทั้งนี้ สมาชิกเฟดบางรายยังคงมีมุมมองที่ต้องการจะเห็นข้อมูลเศรษฐกิจที่มากขึ้นกว่านี้ก่อนจะทำการตัดสินใจเรื่องกรอบเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่สมาชิกเฟดหลายรายก็ระบุว่า แม้อัตราว่างงานจะอยู่ในระดับต่ำมากแต่เงินเฟ้อก็ยังคงอ่อนแรงอยู่ พร้อมระบุว่า ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯนั้นได้รับอานิสงส์มาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนให้ตลาดแรงงานแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ดี รายงานการประชุมเฟดได้ชี้ให้เห็นว่า สมาชิกเฟดหลารายดูจะยังมีความกังวลกับเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าระดับเป้าหมาย 2% เป็นเวลาที่นานเกินกว่าที่คาดไว้ สอดคล้องกับถ้อยแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ในวันก่อนที่ระบุว่า ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มของเงินเฟ้อ จึงทำให้ตลาดกลับมาลดโอกาสของจำนวนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีหน้า

• รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า เฟดน่าจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. สู่กรอบ 1.25 – 1.50% ขณะที่ในช่วงสิ้นปีหน้ราแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดน่าจะอยู่ที่ระดับ 1.75%

• จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯประจำสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงจำนวน 13,000 ราย รวมทั้งสิ้น 239,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับลดลงติดต่อกัน 2 สัปดาห์ ท่ามกลางตลาดแรงงานที่เริ่มฟื้นตัวจากพายุเฮอริเคน ทั้งนี้ นับเป็นสัปดาห์ที่ 142 ที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐฯ

• สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ในการประชุมประจำเดือนธ.ค. ของอีซีบี มีแนวโน้มสูงที่ทางคณะกรรมการมีจะคงนโยบายการเงินไว้ดังเดิม รวมทั้งหลีกเลี่ยงที่จะเจรจาเกี่ยวกับแผนการดำเนินนโยบายออกไปก่อนจนกว่าจะเข้าสู่ปี 2018 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอีซีบีน่าจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีช่วงปลายปี 2019

• กระทรวงการคลังอังกฤษปรับลดคาดการณ์อัตราเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศปี 2017 ลงสู่ระดับ 1.5% เทียบกับระดับ 2.0% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ปรับลดคาดการณ์สำหรับปี 2018 ลงสู่ระดับ 1.4% จากเดิมที่ 1.6% พร้อมส่งสัญญาณอีกว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะชะลอตัวลงอีกในช่วงระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า

• นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แสดงความต้องการให้ประเทศซิมบับเว กลับเข้าร่วมประชาคมระหว่างประเทศ ภายหลังจากการลาออกจากตำแหน่งของนายโรเบิร์ต มูกาบี อดีตประธานาธิบดีซิมบับเว

• โฆษกประจำสภาสาธารณรัฐซิมบับเว เผย นายเอ็มเมอร์สัน มนังกาวา อดีตรองประธานาธิบดี เตรียมเข้าพิธีสาบานตนเพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ ภายในวันศุกร์นี้ หลังจากที่นายโรเบิร์ต มูกาบี อดีตประธานาธิบดี ได้ประกาศลาออกท่ามกลางแรงกดดันจากคณะรัฐประหารและประชาชน


• ขณะที่ นายเอ็มเมอร์สัน ได้กล่าวปราศรัยต่อประชาชนซิมบับเว เมื่อคืนนี้ โดยระบุว่า ประเทศกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ท่ามกลางเสียงสนับสนุนอย่างล้นหลามจากประชาชน

• ราคาน้ำมันดิบปิดระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หลังจากที่มีข่าวการปิดท่อส่งน้ำมันรายใหญ่จากแคนนาดา จึงอาจทำให้เกิดการลดภาวะอุปทานของสหรัฐฯได้

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 1.19 เหรียญ หรือคิดเป็น +2% ที่ระดับ 58.02 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ก.ค. ปี 2015 ท่ามกลางข่าวความกังวลเกี่ยวกับการลดอุปทานจากการปิดท่อส่งน้ำมัน Keystone ประกอบกับรายงานจาก API ที่ระบุว่า ปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯปรับตัวลดลงสู่ระดับ 6.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 75 เซนต์ หรือคิดเป็น +1.2% ที่ระดับ 63.32 เหรียญ

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com