- ผู้เชี่ยวชาญจาก UBS คาด ค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินยูโรจะมีผลประกอบการน่าผิดหวังในปี 2018 แม้จะได้รับแรงหนุนจากจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดก็ตาม
- หากดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น ก็จะส่งผลดีต่อค่าเงินดอลลาร์เรื่องจากนักลงทุนจะหันเข้ามาในตลาดสหรัฐฯมากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญจาก UBS คาด ค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินยูโรจะมีผลประกอบการน่าผิดหวังในปี 2018 แม้จะได้รับแรงหนุนจากจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดก็ตาม
หากดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น ก็จะส่งผลดีต่อค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนจะให้ความสนใจตลาดสหรัฐฯมากขึ้น แต่นักวิเคราะห์คาดว่า ค่าเงินยูโรก็จะยังคงมีผลประกอบการที่เหนือกว่าค่าเงินดอลลาร์อยู่ดี ขณะที่ภายในปีนี้ ค่าเงินยูโรยืนเหนือดอลลาร์คิดเป็นมูลค่าถึง 11.5% ตลอดทั้งปี
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ภายในปี 2018 มูลค่าของเงินยูโรจะยังเคลื่อนไหวในระดับต่ำ แต่จะได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของเศรษฐกิจยูโรโซน ประกอบกับการที่ตลอดทั้งปีนี้ ค่าเงินยูโรสามารถครอบครองผลประกอบการที่เหนือว่าดอลลาร์ได้จากเศรษฐกิจยุโรปที่แข็งแกร่งขึ้น รวมถึงการที่ธนาคารกลางยุโรปเพิ่งเริ่มที่จะลดขนาดการเข้าซื้อสินทรัพย์รายเดือนอีกด้วย
ทั้งนี้ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์เศรษฐกิจมหภาคประจำ UBS ยังได้เขียนรายงาน “สกุลเงินต่างๆ ที่ UBS คาดว่าจะได้รับผลประโยชน์จากการชะลอทางการเติบโตของเศรษฐกิจ จากอัตราเงินเฟ้อที่ขยายตัวอย่างช้าๆแต่มั่นคง และจากนโญบายทางการเงินที่ผ่อนคลายเพื่อธนาคารกลางจะสามารถปรับนโยบายการเงินให้เป็นปกติได้อย่างไม่ขัดข้องในปี 2018” โดยมีสกุลเงินดังต่อไปนี้
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับดอลลาร์แคนาดาและเงินเยนญี่ปุ่น
UBS คาดว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะมีผลประกอบการที่เหนือกว่าดอลลาร์แคนาดาและ เยนญี่ปุ่นในปี 2018 เนื่องจาก อัตราเงินเฟ้อของเศรษฐกิจแคนาดายังคงเคลื่อนไหวในระดับต่ำจากแรงกดดันของการแข็งค่าของเงินดอลลาร์แคนาดา โดยคาดว่าช่วงต้นปี 2018 ดอลลาร์สหรัฐฯจะมีผลประกอบการที่เหนือกว่าดอลลาร์แคนาดาได้ตลอดช่วงต้นปี และกดดันให้ดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงมา
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยนญี่ปุ่น น่าจะได้รับผลกระทบจากนโยบายเชิงผ่อนคลายทางการเงินจากทางธนาคารกลางญี่ปุ่น ส่งผลให้ค่าเงินเยนทรงตัวและดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน
สกุลเงินที่อ่อนไหวต่อความเสี่ยง
UBS คาด สกุลเงินที่จะได้รับความสนใจในฐานะ Safe-Haven และมีผลประการที่แข็งแกร่งในช่วงที่เกิดวิกฤติทางการเงินหรือความเสี่ยงในตลาด ได้แก่ ดอลลาร์ออสเตรเรีย โครเนอร์สวีเดน และ โครเนอร์นอร์เวย์
ปอนด์อังกฤษและดอลลาร์นิวซีแลนด์
สกุลเงินปอนด์อังกฤษและดอลลาร์นิวซีแลนด์ น่าจะได้รับแรงกดดันจากกระแสความไม่มั่นคงทางการเมือง โดยประเทศนิวซีแลนด์ยังคงอยู่ในภาวะความเสี่ยงหลังการเลือกตั้งเมื่อกันยายนที่ผ่านมา ขณะที่ประเทศอังกฤษก็ยังคงอยู่ในภาวะความเสี่ยงจาก Brexit
ที่มา: CNBC