- มีรายงานว่า กระแสความไม่มั่นคงทางการเมืองเยอรมนีตอนนี้ ส่งผลดีกับคะแนนความนิยมของนางอังเกล่า แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี
- หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์การเมือง จากสำนักงานจัดอันดับ Forza กล่าว “เป็นเรื่องที่ตรงกันข้ามกัน”
นักวิเคราะห์การเมือง ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC โดยระบุว่ากระแสความไม่มั่นคงทางการเมืองเยอรมนีในปัจจุบัน กลับส่งผลให้นางอังเกล่า แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี มีคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้น แต่หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์การเมือง จากสำนักงานจัดอันดับ Forza กล่าวว่า “เป็นเรื่องตรงกันข้ามกันเลย”
“เมื่อดูจากผลสำรวจ จะเห็นได้ว่าชาวเยอรมันเกือบครึ่งต้องการให้นางแมร์เคิลคงอยู่ในตำแหน่งต่อไป และต้องการให้เธอเข้าร่วมหากมีการเลือกตั้งครั้งต่อไปอีกด้วย ทั้งนี้ ผมวิเคราะห์ได้ว่า นางแมร์เคิลได้สร้างภาพของเธอให้ดูเป็นผู้ที่สามารถบริหารความเสี่ยงทางการเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพมาตลอดทั้ง 3 วาระ”
อย่างไรก็ตาม นางแมร์เคิลและพรรคการเมืองของเธอได้ประสบกับผลการเลือกตั้งที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1949 ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เนื่องจากพรรคฝ่ายขวาจัด AfDสามารถครองคะแนนเสียงมากขึ้น ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล CDU/CSU ของนางแมร์เคิล ชนะการเลือกตั้งไปด้วยคะแนนเสียง 33% เทียบกับ คะแนนเสียง 41.5% ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2013
นอกจากนี้ นางแมร์เคิลยังประสบกับความล้มเหลวในความพยายามก่อตั้งรัฐบาลร่วม เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นางแมร์เคิลได้กล่าวออกสื่อหลังจากนั้นว่า เธอเปลี่ยนอยากให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่มากกว่า ซึ่งประชาชนเยอรมนีก็ไม่ได้สะทกสะท้านจากถ้อยคำของเธอเท่าไหร่ แม้จะเป็นการแสดงถึงความไม่มั่นคงของผู้นำประเทศ
สมาชิกบอร์ดบริหารของพรรค FDP ที่เป็นฝ่ายยกเลิกการเจรจาเพื่อก่อตั้งพรรคร่วมรัฐบาลกับนางแมร์เคิล ได้ออกมากล่าวว่า เขายังเชื่อมั่นว่านางแมร์เคิลยังสามารถเป็นผู้นำให้กับเศรษฐกิจของยูโรโวนได้ แม้จะมีกระแสความไม่มั่นคงทางการเมืองก็ตาม
ทั้งนี้ ทิศทางการเมืองของประเทศเยอรมนี ถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญของสหภาพยุโรปในการออกนโยบาย เนื่องจากเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป รวมถึงมีอำนาจในการควบคุมการเจรจา Brexit ของอังกฤษ และการสนับสนุนประเทศกรีซให้ฟื้นตัวจากวิกฤติทางเศรษฐกิจอีกด้วย
ที่มา: CNBC