- ร่างนโยบายปฏิรูปภาษีที่เขียนขึ้นโดยสมาชิกวุฒิสภารีพับลิกัน มีความแตกต่างออกไปจากฉบับของฝั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่นำเสนอไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
- โดยภาพรวมแล้วร่างนโยบายฉบับล่าสุดยังคงเล็งปรับภาษีสำหรับนิติบุคคล และมุ่งปรับปรุงระบบภาษีในบางส่วน
สมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันแห่งสหรัฐฯ (ส.ว) เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เปิดเผยร่างนโยบายปฏิรูปภาษีที่มุ่งเป้าหมายไปที่การปรับลดระดับภาษีของนิติบุคคล แต่ยังคงมีความแตกต่างกับฉบับร่างที่เขียนขึ้นฝ่ายสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรีพับลิกัน (ส.ส)
ซึ่งรายละเอียดของร่างนโยบายฉบับล่าสุด ที่คณะกรรมการการเงินแห่งสภาสหรัฐฯได้มีการกล่าวถึง มีดังต่อไปนี้
1) ร่างนโยบายของ ส.ว. จะยังคงเล็งลดระดับภาษีนิติบุคคลสู่ระดับ 20% จากเดิมที่ระดับ 35% แต่จะชะลอผลการบังคับใช้ออกไปสู่ปี 2019 ขณะที่ฉบับของ ส.ส. จะให้ผลบังคับใช้ปี 2018
2) ระดับของการปรับลดอัตราภาษีรายบุคคลของฝ่าย ส.ว.จะอยู่ที่ 7 ระดับ โดยระดับต่ำสุดคือ 12% ขณะที่ระดับสูงสุดอยู่ยังอยู่ที่ 38.5% ขณะที่ฝ่าย ส.ส. เสนอให้มี 4 ระดับ
3) ฝ่าย ส.ว. เสนอให้มีการปรับลดระดับเพดานภาษีสำหรับผู้มีสถานะโสดสู่ระดับ 12,000 เหรียญ ขณะที่คู่สมรสจะปรับลดสู่ระดับ 24,000 เหรียญ ซึ่งสอดคล้องกับทางฝั่ง ส.ส.
4) ร่างนโยบายของทั้งฝั่ง ส.ว. และ ส.ส. จะยกเลิกการปรับลดภาษีที่จ่ายให้ภาครัฐหรือท้องถิ่น
5) ร่างนโยบายของฝั่ง ส.ว. ไม่ได้เสนอให้ปรับระดับเพดานดอกเบี้ยการจำนอง โดยยังคงไว้ดังเดิมที่ระดับ 1 ล้านเหรียญ ขณะที่ฝั่ง ส.ส. เสนอให้ปรับลดเพดานลงสู่ระดับ 5 แสนเหรียญ
6) ทั้งสองร่างนโยบายยังคงแผน 401(k) หรือกองทุนบําเหน็จบํานาญไว้ดังเดิม
7) ร่างนโยบายทั้ง 2 เล็งหนุนการเติบโตภาคเศรษฐกิจด้วยการปรับลดภาษีของธุรกิจ
8) ร่างนโยบายของทาง ส.ว. เสนอให้เพิ่มระดับเครดิตของผู้มีบุตร สู่ระดับ 1,650 เหรียญ จากเดิมที่ 1,000 เหรียญ
9) ร่างนโยบายของฝั่ง ส.ว. เล็งเพิ่มจำนวนผู้ได้รับการยกเว้นภาษีเป็น 2 เท่า ขณะที่ ฝั่ง ส.ส. เล็งยกเลิกระบบดังกล่าวภายใน 6 ปีหลังใผลบังคับใช้
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการด้านการจัดหารายได้แห่งสภาสหรัฐฯมีมติสนับสนุนให้นำร่างนโยบายเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป โดยร่างนโยบายจะได้รับการลงคะแนนเสียงภายในการประชุมสภาสัปดาห์หน้า