• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 7 กันยายน 2560

    7 กันยายน 2560 | Economic News


 

·         ค่าเงินยูโรทรงตัวก่อนเข้าสู่การประชุมอีซีบีในวันนี้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แคนาดาทรงตัวแถวระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หลังจากที่เมื่อคืนนี้ ธนาคารกลางแคนาดาสร้างเซอร์ไพร์สแก่ตลาดด้วยการประกาศปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25สู่ระดับ 1%พร้อมทั้งเปิดโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้

ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.1% ที่ระดับ 1.1928 ดอลลาร์/ยูโร แต่การเคลื่อนไหวล่าสุดก็ยังอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดบริเวณ 1.2070 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ม.ค. 2015

ด้านดัชนีดอลลาร์ทรงตัวบริเวณ 92.195 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.97 เยน/ดอลลาร์

·         สำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า ความสนใจตลาดอยู่ที่การประชุมอีซีบีในวันนี้ ว่านายมาริโอ ดรากี้ จะแสดงความกังวลต่อการแข็งค่าของค่าเงินยูโรเมื่อไม่นานมานี้หรือไม่ ซึ่งหากนายดรากี้ไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกับการแข็งค่าของค่าเงินยูโร หรือนโยบายการเงิน อาจเห็นค่าเงินยูโรเผชิญกับแรงเทขายกลับลงมาบริเวณแนวรับระยะสั้น 1.17 ดอลลาร์/ยูโร และ 1.18 ดอลลาร์/ยูโรได้

·         สำนักข่าว BBC รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เห็นพ้องกับแผนของพรรคเดโมแครตที่จะขยายระยะเวลาของเพดานหนี้ออกไปอีก 3 เดือน รวมทั้งเงินทุนของภาครัฐฯในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุเฮอริเคนฮาวีย์

เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีการเข้าพบผู้นำพรรครีพับลิกัน ที่แสดงความประสงค์จะขยายเวลาเพดาหนี้ให้นานออกไป จนกว่าจะแล้วเสร็จผลการเลือกตั้งกลางเทอมในปี 2018

ขณะที่พรรคเดโมแครต ประกาศแนวทางข้อตกลงก่อนยื่นต่อสภาผู้แทนสหรัฐฯในการอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัยจำนวน 8 พันล้านเหรียญฯ และทางสภาคองเกรสจำเป็นต้องอนุมัติเงื่อนไขดังกล่าวก่อนเพื่อเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการอนุมัติการดำเนินการ

·         รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สร้างความประหลาดใจในการเห็นด้วยกับข้อตกลงของพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้และการเตรียมงบประมาณรัฐบาลจนถึง 15 ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นการร่วมมือทางการเมืองระหว่างพรรฝ่ายค้าน สมาชิกพรรครีพับลิกัน และพรรคร่วมรัฐบาล

·         นายทรัมป์ กล่าวเตือนว่า สหรัฐฯอาจไม่ใช้ความอดทนยาวนนานเกินไปต่อการกระทำของเกาหลีเหนือ แต่การใช้กำลังทหารเพื่อจัดการกับเกาหลีเหนือก็ไม่ใช่ “ทางเลือกแรก” ที่จะเลือกใช้

คณะบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ทำการร้องขอให้สภาคองเกรสพิจารณาใช้กลยุทธ์ทางการฑูตเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือ และหลีกเลี่ยงการใช้กำลังทางการทหารเข้าแทรกแซง

ทั้งนี้ สหรัฐฯในปัจจุบันยังคงไม่มีทางเลือกทางการทหารที่เหมาะสม การใช้กลยุทธ์ทางการฑูตจึงเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุดกับปัญหาความขัดแย้งในเกาหลีเหนือ

·         รายงานจาก Market Watch แสดงให้เห็นว่า นายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด วัย 73 ปี ได้ทำการยื่นจดหมายถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับแผนการลาออกจากตำแหน่งในช่วงกลางเดือน ต.ค. นี้ ด้วยเหตุผลส่วนตัว ขณะที่วาระการดำรงตำแหน่งของเขาจะหมดวาระจริงในเดือน มิ.ย. ปีหน้า

อย่างไรก็ดี เขาระบุถึงมุมมองทางเศรษฐกิจสหรัฐฯที่มีความแข็งแกร่งต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่เขาได้ดำรงตำแหน่งของเฟดในปี2014 และเขารู้สึกภาคภูมิใจกับระบบการเงินที่มีความแข็งแรงมากขึ้นนับตั้งแต่เกิดวิกฤตทางการเงิน

·         รายงานผลสำรวจจากเฟด แสดงให้เห็นว่า สภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯมีการขยายตัวในระดับปานกลางในช่วงเดือนก.ค. จนถึงช่วงกลางเดือนส.ค. แต่สัญญาณการฟื้นตัวของเงินเฟ้อนั้นยังอยู่ในระดับต่ำ

·         รายงานจากรอยเตอร์ส ระบว่า การประชุมอีซีบีในวันนี้ นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบีน่าจะเริ่มกำหนดกรอบการปรับลดนโยบายการเงิน แต่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าอีซีบีน่าจะยังคงนโยบายมากกว่า

อย่างไรก็ดี อีซีบีอาจมีความกังวลต่อความผันผวนที่เพิ่มมากขึ้นของตลาดในขณะนี้ จึงอาจจะยังไม่ดำเนินแผนการใดๆ และอาจมีการเปลี่ยนข้อความชี้นำได้ ซึ่งเราอาจเห็นอีซีบีเผยการปรับลดการเข้าซื้อพันธบัตรในช่วงเดือนต.ค. หรือธ.ค. ก่อนที่การเข้าซื้อพันธบัตรจำนวน 2.3 ล้านล้านยูโร หรือ 2.74 ล้านล้านเหรียญจะหมดอายุในช่วงสิ้นปีนี้

·         ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นได้กว่า 1% ท่ามกลางอัตราการกลั่นน้ำมันทั่วโลกที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการกลับมาเปิดทำการของโรงกลั่นน้ำมันบริเวณชายฝั่งสหรัฐฯ จึงเป็นสัญญาณขับเคลื่อนทิศทางขาขึ้นต่อตลาดน้ำมัน หลังจากที่ปรับตัวลงจากพายุเฮอริเคนฮารวีย์

สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับตัวขึ้น 82 เซนต์ ที่ระดับ 54.20 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 50 เซนต์ ที่ระดับ 49.16 เหรียญ/บาร์เรล

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย หลังจากที่ข้อมูลภาคอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นถึงสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงเพิ่มขึ้น

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com