MTS Help Center

หลังจากที่พายุเฮอริเคนฮาวีย์ได้สร้างความเสียหายให้กับสหรัฐฯ โดยเฉพาะในพื้นที่ทางภาคใต้ อาจส่งผลให้บรรดาสมาชิกเฟดต้องเพิ่มหัวข้อที่จะพิจารณาเพิ่มในการประชุมอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า อย่างไรก็ดี เฟดน่าจะสามารถดำเนินนโยบายการเงินได้ตามเดิม โดยไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

 

ซึ่งจะเห็นได้ว่า พายุเฮอริเคนแซนดี้ที่เคยพัดถล่มสหรัฐฯเมื่อ 7 ปีก่อน ไม่ได้กลายเป็นหัวข้อสำคัญในการประชุมของเฟดแม้แต่น้อย

 

ภัยพิบัติทางธรรมชาติมักจะส่งผลกระทบรุนแรงให้กับระดับครัวเรือนและชุมชน อาจให้ทำมีการเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนรวมถึงด้านการอพยพในระยะยาว และอาจทำให้บางธุรกิจต้องปิดกิจการลงขณะที่บางส่วนประสบความยากลำบากในการฟื้นตัว

 

อย่างไรก็ตาม บรรดานักเศรษฐกิจศาสตร์ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ในระยะยาว ความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติจะถูกจัดอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น ขณะที่ในระยะสั้นอาจทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงักได้ ซึ่งจะทำให้มีการใช้จ่ายในประเทศพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากการใช้จ่ายเกี่ยวกับการฟื้นฟูธุรกิจ รวมถึงการซ่อมแซมอาคาร หรือการจัดซื้ออุปกรณ์ทดแทน เป็นหลัก

 

นักเศรษฐศาสตร์จากดอยซ์แบงก์ กล่าวว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติจะไม่ส่งกระทบให้เฟดเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายการเงินหรือทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจแต่อย่างใด ขณะที่เฟดน่าจะไม่ใส่ใจกับความผันผวนของตัวเศรษฐกิจในช่วงนี้

 

ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะได้รับผลกระทบในระยะสั้นๆ ได้แก่ 1) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่อาจเพิ่มสูงขึ้น 2) ตัวเลขการจ้างงานอาจชะลอตัว 3) ยอดค้าปลีกน้ำมันจะลดลง จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น 4) ยอดการผลิตจะลดลงประมาณ 17-27% และ 5) ยอดกลั่นน้ำมันสหรัฐฯจะลดลง เนื่องจากผู้ผลิตน้ำมันที่ปิดกิจการชั่วคราวจากน้ำท่วม

ที่มา: Reuters