• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 24 สิงหาคม 2560

    24 สิงหาคม 2560 | Economic News


 

·         ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงวานนี้ ท่ามกลางนักลงทุนที่ลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ทำการขู่จะทำการ Shutdown รัฐบาลหากสภาคองเกรสไม่อนุมัติเงินสนับสนุนการสร้างกำแพงพรมแดนเม็กซิโก รวมทั้งการขู่จะยุติข้อตกลง NAFTA หลังจากที่การเจรจาร่วมกันระหว่าง 3 ประเทศยังคงล้มเหลวและมีความคิดเห็นแตกต่างกันในเชิงลึก

สำนักงบประมาณสหรัฐฯ กล่าวในเดือนมิ.ย.ว่า สภาคองเกรสจำเป็นต้องเพิ่มระดับเพดานหนี้ให้ได้ก่อนช่วงกลางเดือนตุลาคมเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะการผิดนัดชำระหนี้

ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลง 0.4% ที่ระดับ 93.151 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น 108.97 เยน/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรรับอานิสงส์จากข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) ของเยอมนีและฝรั่งเศสที่แข็งแกร่งเกินคาด และปรับขึ้น 0.5ที่ระดับ 1.1818 ดอลลาร์/ยูโร

·         ผลการประกาศข้อมูลยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯวานนี้ออกมาแย่ลงกว่าที่คาดการณ์ในเดือนก.ค. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนนับตั้งแต่ ธ.ค.ปีที่แล้ว โดยข้อมูลล่าสุดปรับตัวลดลง 9.4ที่ระดับ 571,000 ยูนิต ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการชะลอตัวในตลาดที่อยู่อาศัย แม้ว่าข้อมูลในเดือนมิ.ย.จะมีการปรับทบทวนเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับ 630,000 ยูนิต ซึ่งการชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยอาจฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาสที่ 3 นี้ได้

 

·         สมาชิกพรรครีพับลิกันกล่าวตำหนิ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากที่เขาได้กล่าวขู่จะทำการ Shutdownรัฐบาล หากสภาคองเกรสไม่อนุมัติเงินสนับสนุนการสร้างกำแพงพรมแดน จึงส่งผลให้ตลาดต่างๆยิ่งกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความพยายามของสภาคองเกรส ในการเพิ่มระดับเพดานหนี้ของประเทศและการผ่านมติงบประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆ

อย่างไรก็ดี สภาคองเกรสจะมีเวลาเพียง 12 วัน ในการกลับมาทำงานวันที่ 5 ก.ย. หลังจากที่หยุดยาวช่วงซัมเมอร์ เพื่อกลับมาลงมติเกี่ยวกับมาตรการงบประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อให้รัฐบาลยังเปิดทำการได้ ขณะเดียวกันทางสหรัฐฯก็กำลังเผชิญกับกำหนดเส้นตายในการเพิ่มวงเงินการกู้ยืมให้แก่รัฐบาล ซึ่งทางสภาคองเกรสจำเป็นต้องอนุมัติมาตรการดังกล่าวให้ได้เพื่อแก้ไขปัญหา

·         นายพอล ไรอัน โฆษกทำเนียบขาว แสดงความคิดเห็นว่า ทางสภาคองเกรสจำเป็นต้องอนุมัติการขยายเวลาระยะสั้นเพื่อแก้ไขปัญหา จากงบประมาณสนับสนุนในปัจจุบัน ซึ่งทางวุฒิสภาอาจต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณค่าใช้จ่ายฉบับเต็ม และอาจต้องเร่งผลักดันแผนงบประมาณเพื่อไว้ต่อสู้กับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปลายปี รวมทั้งอาจเผชิญกับความล่าช้าของแผนปฏิรูปภาษี และการลงนามอื่นๆตามนโยบายที่นายทรัมป์ได้เคยหาเสียงไว้

·         รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ทีมบริหารของนายทรัมป์กำลังพิจารณาเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลเวเนซูเอล่า  ประกอบไปด้วยการสั่งมห้ามซื้อขายตราสารหนี้ของประเทศ เป็นต้น

·         สมาคมด้านการจัดการและการเงิน (ELFA) กล่าวว่า การกู้ยืมของภาคบริษัทตางๆในสหรัฐฯ เพื่อนำมาใช้จ่ายเป็นเงินทุนสำหรับการลงทุนเพิ่มขึ้น 12.9ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยภาคบริษัทมีการลงนามเงินกู้รอบใหม่เพิ่มขึ้น 7.9 พันล้านเหรียญ หรือเพิ่มขึ้นจากระดับ 7 พันล้านเหรียญในปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี จะพบว่า ภาพรวมอัตราการกู้ยืมล่าสุดปรับตัวลดลงประมาณ 19.4เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.


·         รายงานจากรอยเตอร์สเผยผลสำรวจล่าสุด ที่แสดงให้เห็นว่า ภาคธุรกิจกว่าครึ่งหนึ่งที่ดำเนินงานในเชิงธุรกิจห่วงโซ่อุปทานด้านอาหารของอังกฤษ กล่าวว่า ผู้ใช้แรงงานในอียูกำลังมีความคิดเกี่ยวกับการลาออก เนื่องจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากภาวะ Brexit  

ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจของอังกฤษดูเหมือนจะชะลอตัวลงในปีนี้ อันเป็นผลมาจาก Brexit ที่ยังไม่แน่ชัดว่าจะส่งผลอย่างไรต่อตลาดแรงงาน โดยจะเห็นได้ว่าแรงงานของอียูส่วนใหญ่ที่ทำงานในอังกฤษมีจำนวนเพิ่มขึ้นเพียง 1.6เมื่อเทียบรายปีในไตรมาสที่ 2 ซึ่งถือเป็นระดับแรงงานที่เพิ่มจำนวนน้อยที่สุดในรอบ 7 ปี

·         ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 ท่ามกลางเหตุพายุเข้าบริเวณชายฝั่งของสหรัฐฯ และอาจกระทบต่อศักยภาพในการผลิตและการกลั่นน้ำมันดิบได้

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 70 เซนต์ ที่ระดับ 52.57 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 58 เซนต์ ที่ระดับ 48.41 เหรียญ/บาร์เรล 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com