MTS Help Center

• ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่บริเวณ 92.96 จุด เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ท่ามกลางแรงเทขายที่เริ่มเบาบางลง ขณะที่ค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ปรับแข็งค่าขึ้น 0.3% ที่ระดับ 1.1837 ยูโร/ดอลลาร์ ซึ่งอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งที่ 1.1846 ยูโร/ดอลลาร์

หัวหน้านักกลยุทธ์ค่าเงินจาก RBC Capital Markets กล่าวว่า ค่าเงินยูโรถูกแรงเทขายหลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้น และเชื่อว่าตลาดอาจตอบรับกับกระแสคาดการณ์ที่ว่าอีซีบีจะเริ่มคุมเข้มทางการเงินไปแล้ว

• ค่าเงินปอนด์อังกฤษแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ย. ที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ หลังข้อมูลกิจกรรมภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษประจำเดอืนก.ค. กลับมาขยายตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จึงช่วยผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจอังกฤษที่ชะลอตัว

ทั้งนี้ ค่าเงินปอนด์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.3240 ดอลลาร์/ปอนด์ ขานรับข้อมูล PMI อังกฤษที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางข้อมูลค่าใช้จ่ายภาคการก่อสร้างของสหรัฐฯที่ออกมาแย่ลงเกินคาดในเดือนมิ.ย. เป็นปัจจัยที่กดดันค่าเงินดอลลาร์

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของอังกฤษออกมาดีขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 55.1 จุด เพราะได้รับอานิสงส์จากยอดนำเข้าครั้งใหม่ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวผ่านทางทวิสเตอร์ โดยอ้างว่าสหรัฐฯมีรายได้เข้าประเทศอย่างแข็งแกร่ง ภายใต้นโยบายการเงินของเขา จึงส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ว่าอาจเป็นการหาเสียงสนับสนุนให้พรรครีพับลิกัน เพื่อที่จะสามารถดำเนินนโยบายปฏิรูปภาษีต่อไป

ทั้งนี้ จากผลสำรวจโดย Thomson Reuters พบว่า บริษัทมหาชนรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ มีผลประกอบการรายไตรมาสดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่คาดการณ์ว่ารายได้ประจำปีนี้จะเพิ่มขึ้น 11.5% ซึ่งจะเป็นอัตราเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่ปี 2011

• คณะบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯเผย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใกล้ที่จะสามารถสรุปนโยบายตอบโต้ข้อตกลงการค้ากับจีนที่เขาระบุว่าเป็นการค้าที่“ไม่ยุติธรรม” ได้แล้ว

• นายเกร็ก แอนเดรส อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมแห่งสหรัฐฯ ได้เข้าร่วมชุดสืบสวนพิเศษในกรณีต้องสงสัยการทุจริตการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016 นำโดยนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ อดีตผู้อำนวยการ FBI โดยนายเกร็จ นับเป็นสมาชิกอันดับที่ 16 ที่เป็นเจ้าหน้าที่ด้านกฏหมายของชุดสืบสวนพิเศษ

• เกิดกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้าง ว่าธนาคารกลางอินเดียเตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 6% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 6% เพื่อรับมือกับปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ ที่ระดับ 1.54% ในเดือนมิถุนายน ท่ามกลางราคาอาหารที่ปรับร่วงลง

• วันนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงประมาณ 1% ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ จึงกดดันให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรลอีกครั้ง ประกอบกับระดับอุปทานในกลุ่มโอเปกที่ยังอยู่ในระดับสูงยังเป็นปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมันอยู่ในขณะนี้

น้ำมันดิบ WTI ทรงตัวแถวระดับ 48.69 เหรียญ/บาร์เรล โดยปรับตัวลงประมาณ 1% จากระดับปิดเมื่อคืนนี้ จึงทำให้ช่วงเช้าวันนี้ราคาน้ำมันดิบเปิดเหนือกว่าระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรลได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงเกือบ 1% แถวระดับ 51.31 เหรียญ/บาร์เรล

• หน่วยงาน API เผย สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 1.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 488.8 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา จึงเป็นปัจจัยที่สะกัดกั้นความคาดหวังของนักลงทุนเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่เพิ่งปรับตัวลดลงเมื่อไม่นานมานี้ ที่อาจเห็นตลาดสหรัฐฯมีความตึงตัวเพิ่มขึ้น

• นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าวว่า รายงานของ API ทำให้เหล่าเทรดเดอร์เลือกที่จะทำการเทขายทำกำไรหลังจากที่ราคาน้ำมันเป็นขาขึ้นมาต่อเนื่องในช่วง 8 วันที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ตลาดน่าจะรอคอยการเปิดเผยข้อมูลจากหน่วยงาน EIA ของรัฐบาลสหรัฐฯในคืนนี้