MTS Help Center

·         ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นได้จากระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน โดยได้รับอานิสงส์จากบรรดานักลงทุนทีชะลอการเทขายเพื่อปรับสถานะการลงทุนก่อนทราบข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะข้อมูลการจ้างงานภาคการเกษรตรของรัฐบาลสหรัฐฯที่จะประกาศในคืนวันศุกร์นี้

- ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวบริเวณ 93.039 จุด หลังจากที่ร่วงลงไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดบริเวณ 92.777 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ พ.ค. ปี 2016

- ค่าเงินเยนอ่อนค่าขึ้นมาน้อยบริเวณ 110.49 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 สัปดาห์บริเวณ 109.92 เยน/ดอลลาร์วานนี้

- ค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.1803 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสุงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งบริเวณ 1.1846 ดอลลาร์/ยูโรเมื่อวันก่อน

อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่า ภาวะความเสี่ยงทางการเมืองและความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐฯเป็นปัจจัยหลักที่เข้ากดดันค่าเงินดอลลาร์ ในขณะที่ค่าเงินยูโรได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่าอีซีบีอาจเริ่มถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งค่าเงินยูโรในปีนี้ปรับแข็งค่าขึ้นได้ประมาณ 12% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์

·         รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ภาพรวมภาคโรงงานอุตสาหกรรมของสหรัฐฯยังขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งในรอบเกือบ 3 ปีในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา แม้ว่ายอดคำสั่งซื้อสินค้าใหม่และค่าใช้จ่ายผู้บริโภคจะมีการชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จึงบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯนั้นขยายตัวได้ในระดับปานกลางสำหรับไตรมาสที่ 3/2017

·         รายงานจาก CNBC ระบุว่า ประมาณการณ์จีดีพีของยุโรปสะท้อนให้เห็นว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในไตรมาสที่ 2/2017 ขยายตัวได้ดีตามคาดที่ระดับ 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และโดยภาพรวมปีนี้เศรษฐกิจยูโรโซนน่าจะขยายตัวได้ 2.1%

·         น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับตัวลง 94 เซนต์ หรือคิดเป็น -1.8% ที่ระดับ 51.78 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.01 เหรียญ หรือคิดเป็น -2% ที่ระดับ 49.16 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงประมาณ 2% จากระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อวานนี้ แม้ว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกที่ยังคงพยายามลดภาวะอุปทาน โดยกลุ่มนักลงทุนกำลังวิตกกังวลว่าในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าการเข้าเก็งกำไรอาจผลักดันให้ราคาขึ้นสูงเกินไปและปรับตัวเร็วเกินไป

โดยช่วงต้นตลาดวานนี้เกิดแรงเทขายเข้ามาเพิ่มขึ้นจึงทำให้ราคาร่วงลงจากระดับต่ำสุดของวันจันทร์ที่ผ่ามากว่า 925,000 คู่สัญญา จึงทให้ตลาดแกว่งตัวค่อนข้างมากในรอบเกือบ 3 สัปดาห์

·         นักวิเคราะห์จาก Price Futures Group ประจำชิคาโก กล่าวว่า ดูเหมือนว่าภาวะทางเทคนิคประกอบกับข่าวของโอเปกจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนและทำให้นักลงทุนปิดสถานะออกจากตลาดในเวลาเดียวกัน

จะเห็นได้ว่า ปริมาณการผลิตของกลุ่มโอเปกยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีกำลังการปรับลดกำลังการผลิต ประกอบกับเกิดแรงเทขายเข้ามาในตลาดหลังสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นกว่า 16% นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา

·         เกิดกระแสกดดันต่อกองกำลังทหารของเวเนซุเอลา ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่ยืดเยื้อมาติดต่อกันเกือบ 5 เดือน โดยทุกฝ่ายกำลังจับตามองผู้นำกองทัพ ว่าจะยังคงภักดีต่อนายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดี ต่อไปหรือไม่