• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 28 มิถุนายน 2560

    28 มิถุนายน 2560 | Economic News


  


• ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ระดับ 96.442 จุด โดยยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดในวานนี้บริเวณ 97.447 จุด ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.4% ที่ระดับ 1.1339 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสุงสุดในรอบ 10 เดือน บริเวณ 1.1345 ดอลลาร์/ยูโร หลังประธานอีซีบี ส่งสัญญาณจะปรับนโยบายทางการเงินให้เหมาะสมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน

ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นในฐานะ Safe Haven บริเวณ 112.12 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่อ่อนค่าไปบริเวณ 112.285 เยน/ดอลลาร์

• นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวว่า เธอไม่เชื่อว่าจะมีวิกฤตทางการเงินอื่นๆเกิดขึ้นตราบใดที่เธอยังมีชีวิตอยู่ ท่ามกลางการปฏิรูปครั้งใหญ่ของระบบภาคธนาคารนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตทางการเงินเมื่อปี 2007-2009 พร้อมกล่าวย้ำมุมมองของเฟดที่จะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ขณะที่พันธบัตรในพอร์ตฯของเฟดที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ผ่านมาในช่วงเกิดวิกฤตก็จะเป็นการดำเนินการปรับลดอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามที่คาดหวังไว้

อย่างไรก็ดี ประธานเฟดเลี่ยงที่จะกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับนายทรัมป์ โดยกล่าวแต่เพียงว่าการทำงานร่วมกับ นายสตีฟ มนูชิน เลขาธิการกระทรวงการคลังสหรัฐฯนั้นเป็นไปด้วยดี

• นายแสตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด กล่าวเตือนว่า เฟดควรเฝ้าระวังต่อความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงิน แม้ว่าเมื่อไม่กี่ปีมานี้จะมีสัญญาณว่าระบบทางการเงินส่วนใหญ่มีความยืดหยุ่นและมีเสถียรภาพเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ไม่ควรที่จะหยุดความพึงพอใจไว้แค่นี้

• นายนีล คาร์ชคาริ ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิส กล่าวว่า เงินเฟ้อในระดับต่ำและการอ่อนตัวของค่าเงินมีสัญญาณการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นเฟดจึงไม่ควรทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

• รายงานจาก CNN ระบุว่า นายมิชช์ แม็คคอนเนล ผู้นำสมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันตัดสินใจเลื่อนแผนการโหวตร่างประกันสุขภาพที่จะมาแทนที่โอบามาแคร์ จนกว่าจะเสร็จสิ้นวาระการประชุมของวุฒิสภาในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ขณะเดียวกันเขากล่าวว่าร่างกฎหมายสุขภาพดังกล่าวของทางพรรคจะได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอในการทำให้เป็นตัวบทกฎหมาย

• เจ้าหน้าที่ระดับสูง 3 รายของทีมบริหารรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความไม่ถึงพอใจอย่างรุนแรง ต่อการไร้ซึ่งความเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านเกาหลีเหนือจากประเทศจีน พร้อมทั้งยังระบุว่า อาจเพิ่มมาตรการทางการค้ากับจีน หากจีนยังคงไม่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านเกาหลีเหนือ

• เมื่อวานนี้ ไอเอ็มเอฟประกาศปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯลงสู่ระดับ 2.1% ทั้งในปี 2017 และ 2018 จากการที่ทรัมป์ยังไม่สามารถผลักดันแผนปรับลดภาษีและค่าใช้จ่ายต่างๆเพื่อนหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ พร้อมระบุว่า ทีมบริหารของนายทรัมป์ ดูเหมือนจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการขยายตัวของจีดีพีที่ระดับ 3% ได้ แม้ว่าตลาดแรงงานจะมีภาวะการจ้างงานอย่างเต็มรูปแบบก็ตาม ขณะที่การขายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯปีที่แล้วอยู่ที่ระดับ 1.6%

• เกิดเหตุโจมตีทางไวรัสคอมพิวเตอร์อีกครั้งเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา โดยไวรัสตัวใหม่ได้สร้างความเสียหายให้กับรธุรกิจน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ระบบธนาคารของยูเครน และบริษัทต่างประเทศอื่นๆ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญออกมาระบุว่า ไวรัสตัวนี้มีความใกล้เคียงกับไวรัส “Wannacry” ที่ระบาดและสร้างความเสียแก่คอมพิวเตอร์กว่า 300,000 เครื่อง เมื่อเดือนที่ผ่านมา

• ผลสำรวจภาคเอกชน ระบุว่า เศรษฐกิจจีนมีการขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 นี้ โดยได้รับอานิสงค์จาก ผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มบริษัทฯ และการจ้างงานที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ยังต้องจับตาผลกระทบจากสภาพแวดล้อมของระบบการเงินที่บรรดาธนาคารกลางต่างๆเริ่มมีการคุมเข้มทางการเงินมากขึ้น

• ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวสูงขึ้นได้เกือบ 2% และไปทำจุดสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์และการทำ Short Covering ประกอบกับรายงานคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯอาจปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3

น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับตัวขึ้น 82 เซนต์ หรือ +1.79% ที่ระดับ 46.65 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์บริเวณ 47.06 เหรียญ/บาร์เรล

ทางด้านน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับตัวขึ้น 86 เซนต์ หรือคิดเป็น +1.98% ที่ระดับ 44.24 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสดบริเวณ 44.44 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com