• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 30 กันยายน 2559

    30 กันยายน 2559 | Economic News

ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์เมื่อวานนี้ถูกกดดันจากข่าว Deutsche Bank ที่อาจต้องชดใช้เงินจำนวน 1.4 หมื่นล้านเหรียญแก่สหรัฐฯ และการที่สำนักข่าว Bloomberg อ้างถึงข้อมูลภายใน Deutsche Bank ว่ามีกองทุน Hedge Fund ราว 10 กองทุน ต้องการย้ายการถือครองตราสารอนุพันธ์จาก Deutsche Bank ไปยังโบรคเกอร์รายอื่น ในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นได้เนื่องจากข้อมูล GDP สหรัฐฯที่ออกมาดีกว่าคาดช่วยหนุนกระแสคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของเฟด

นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้นภายในปีนี้สู่ระดับ 56.4% จากเดิมที่ 53.1% เมื่อวานนี้

ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้น 0.09% สู่ระดับ 95.518 จุด


จีดีพีสหรัฐฯ

ข้อมูล GDP สหรัฐฯเมื่อวานนี้ออกมาเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดที่ระดับ 1.4% จากที่คาดการณ์ไว้ 1.3% เนื่องจากดุลการค้าที่ขาดดุลน้อยลงและการลงทุนของภาคเอกชนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยการลงทุนภาคเอกชนออกมาที่ระดับ 1.0% นับเป็นการเติบโตครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 3/2015 โดยก่อนหน้านี้การลงทุนภาคเอกชนสหรัฐฯหดตัวลงจากการลดการลงทุนในภาคพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่หดตัว


ถ้อยแถลงสมาชิกเฟด

เมื่อวานนี้มีสมาชิกเฟดออกมาพูดเกี่ยวกับเศรษฐกิจ 3 ราย โดยมีความเห็นให้ขึ้นดอกเบี้ย 2 ราย ได้แก่ ประธานเฟดสาขาแคนซัส และ สาขาฟิลาเดลเฟีย และชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไป 1 ราย คือ นายเจโรม โพเวลล์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด

นายเจโรม โพเวลล์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด (มีสิทธิออกเสียง) ระบุเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังไปได้ด้วยดี อย่างไรก็ดี เฟดสามารถที่จะอดทนรอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปก่อน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัว ซึ่งเป็นแรงกดดันให้เงินเฟ้อลดต่ำลง แต่หากเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงเติบโตต่อไปได้ด้วยความเร็วในระดับปัจจุบัน คาดว่าเฟดจะสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป

นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส (มีสิทธิออกเสียง) ระบุเมื่อวานนี้ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจในระยะหลังที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯจะยังคงมีอยู่ต่อไป โดยอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1% ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ผ่อนคลาย ดังนั้นมันถึงเวลาแล้วที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย (ไม่มีสิทธิออกเสียง) ระบุเมื่อวานนี้ว่า เฟดน่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้ในเดือน ธ.ค. หากเศรษฐกิจสหรัฐฯสามารถเติบโตไปได้อย่างที่คาดการณ์ นอกจากนี้ยังระบุว่าในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องเหมาะสมเช่นกันที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี มีสมาชิกบางส่วนที่มีความกังวลต่อตลาดแรงงานและอัตราเงินเฟ้อ เฟดจึงยังไม่ดำเนินการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมที่ผ่านมา

ส่วนนางเจเนต เยลเลน ประธานเฟด เมื่อวานนี้ไม่ได้ให้ความเห็นใดๆเกี่ยวกับเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ย


น้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 1.7% สู่ระดับ 47.83 เหรียญ/บาร์เรล เมื่อวานนี้ หลังกลุ่ม OPEC มีมติปรับลดการผลิตน้ำมัน อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันปรับขึ้นในกรอบจำกัด นักวิเคราะห์ได้แสดงความไม่มั่นใจต่อข้อตกลงดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมานั้น สมาชิกโอเปกมักไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้ในการลดการผลิต

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com