• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 29 มิถุนายน 2559

    29 มิถุนายน 2559 | Economic News

นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาด เศรษฐกิจอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

ผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์โดย Bloomberg ระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์ราว 71% คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009 รวมถึงคาดการณ์ว่าบีโอเจจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 3/2016 นี้


 

ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอังกฤษ จะหดตัวลงในปีนี้หรือไม่ก็ปี 2017 โดยมีเพียงส่วนน้อย หรือต่ำกว่า 5% ที่คาดว่าจะหดตัวลงหลังจากนั้น



หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Merrion Capital ระบุว่า อังกฤษนั้นอยู่ในความวุ่นวาย และมีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารกลางอังกฤษออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้ามาช่วยเหลือ

ขณะที่ Goldman Sachs และ Bank of America Merrill Lynch คาดการณ์ว่า GDP อังกฤษจะหดตัวราว 2.5%


นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวโทษ สหภาพยุโรป ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้อังกฤษออกจากอียู

นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวอำลาสหภาพยุโรป ในการประชุม EU Summit พร้อมระบุว่า “อังกฤษไม่สามารถกลับเข้ามาในสหภาพยุโรปได้อีก” พร้อมกล่าวโทษสหภาพยุโรป ว่าหากสหภาพยุโรปยอมให้อังกฤษจัดการกับปัญหาผู้อพยพด้วยตนเองBREXIT ก็อาจไม่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ดี ถ้อยแถลงของนายคาเมรอน ระบุว่า เขาต้องการให้อังกฤษอยู่ใกล้ชิดกับสหภาพยุโรปมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในอนาคต


นายกฯญี่ปุ่น แนะให้ บีโอเจ สร้างความมั่นใจกับตลาดว่าจะมีสภาพคล่องเพียงพอหลัง Brexit

นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุ ในวันนี้ว่า บีโอเจควรอัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป หลังอังกฤษโหวตออกจากอียู

นายอาเบะ ระบุเพิ่มเติมว่า ความกังวลยังคงมีอยู่ในตลาด BREXIT อาจส่งผลให้เกิดความวุ่นวายทางการเงิน และทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นได้ ซึ่งส่งผลร้ายต่อประเทศที่พึ่งพิงการส่งออกอย่างญี่ปุ่น


น้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ โดยนักลงทุนเริ่มกลับเข้าซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ อีกครั้งหลังเผชิญ Shock จาก Brexit ขณะที่ได้รับแรงหนุนจากความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์หยุดงานประท้วงในบริษัทผู้ผลิตน้ำมันดิบในนอร์เวย์ และวิกฤตเศรษฐกิจในเวเนซุเอลา ซึ่งจะส่งผลให้การผลิตน้ำมันดิบลดลง

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 0.75% สู่ระดับ 48.21 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวสูงขึ้น 0.51% สู่ระดับ 49.51 เหรียญ/บาร์เรล

นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่า การกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนจะช่วยหนุนให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการผลิตน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาที่ลดลงในอัตราที่สูงขึ้น รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุหยุดงานประท้วงของบริษัทผลิตน้ำมันดิบในนอร์เวย์

นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรล โดยผลการทำประชามติ Brexit นั้นส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมันดิบไม่มากนัก

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com