• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 3 สิงหาคม 2564

    3 สิงหาคม 2564 | Gold News

“ทองขึ้น” รับดอลลาร์อ่อนค่า - อัตราผลตอบแทนพันธบัตรร่วง

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับอานิสงส์จาก

สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตชะลอตัวลงในเดือนก.ค. ถือเป็นการชะลอตัวต่อเนื่องเดือนที่ 2

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี หลุด 1.2% ปรับตัวลงทำต่ำสุดตั้งแต่ 20 ก.ค. บริเวณ 1.151% ก่อนจะปิด 1.1839%

- ดอลลาร์อ่อนค่า

- ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ชดเชยแรงเทขายที่เกิดขึ้นในวันก่อน

·         ทองคำตลาดโลกปิด +0.1ที่ระดับ 1,816.01 เหรียญ
ระหว่างวันทำต่ำสุดที่ 1,804.49 เหรียญ

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดตลาด +0.3บริเวณ 1,822.20 เหรียญ

·         เริ่มต้นเดือนส.ค. กองทุนทองคำ SPDR เทขายทองคำออก 1.75 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,029.71 ตัน

ขณะที่ภาพรวมเดือนก.ค. ปิดเดือนด้วยสถานะขายสุทธิ 14.32 ตัน

ภาพรวมปี 2021 กองทุนทองคำ SPDR ขายทองแล้ว 141.03 ตัน


·         ตลาดทองคำกำลังให้ความสนใจกับข้อมูลจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ และคาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนมากยิ่งขึ้นของตลาดแรงงาน

·         นักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดจาก ThinkMarkets กล่าวว่า ข้อมูลจ้างงานของรัฐบาลสหรัฐฯกำลังเป็นจุดสนใจของตลาดทองคำเวลานี้ และอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเรื่องกรอบเวลาการลด QE ของเฟด

นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้ความสนใจสถานการณ์ Covid-19 อย่างใกล้ชิด เนื่องจากว่า

หากสถานการณ์ไปในทิศทางที่ไม่ดี จะส่งผลกระทบต่อ “เศรษฐกิจโลก”  และ “นโยบายการเงินของเฟด” และอาจเป็นสาเหตุที่ส่งผลให้ดอลลาร์มีโอกาสอ่อนค่าได้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะสนับสนุนราคาทองคำ

อย่างไรก็ดี ทองคำอาจปรับขึ้นได้อย่างจำกัด จากดัชนี S&P500 ของสหรัฐฯที่ปรับขึ้น แม้จะยังไม่ได้ทำ Record High ก็ตาม

 

·         กรรมการผู้จัดการจาก High Ridge Futures ระบุว่า ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในตลาดยังไม่สูงมากนัก ขณะที่ความต้องการถือครองหุ้นก็ดูจะเพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง แต่สถานการณ์ของเฟดจากประชุมล่าสุด ก็ดูจะเป็นปัจจัยที่ยังหนุนราคาทองคำอยู่ จากการที่เฟดต้องการเห็นความคืบหน้าของตลาดแรงงานก่อนถอนนโยบายสนับสนุนทางเศรษฐกิจ และนั่นส่งผลให้ทองคำทำสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์

 

·         ซิลเวอร์ปิดทรงตัวบริเวณ 25.47 เหรียญ

·         แพลทินัมปิด +0.8% บริเวณ 1,057.3 เหรียญ

·         พลาเดียมปิด +0.8% ที่ 2,681.57 เหรียญ


·         ISM เผยกิจกรรมภาคการผลิตชะลอตัวลงติดต่อกัน 2 เดือน ในเดือนก.ค. แตะ 59.5 จุด ถือว่าเป็นต่ำสุดตั้งแต่ ม.ค. และลดลงจากเดือนมิ.ย. ที่อยู่ที่ระดับ 60.6 จุด

ท่ามกลางการขาดแคลนวัตถุดิบด้านการผลิต ที่ส่งสัญญาณว่าบางส่วนเริ่มีการผ่อนคลายจากปัญหาภาวะคอขวดจากห่วงโซ่อุปทาน โดยค่าใช้จ่ายของกลุ่มผู้ผลิตลดลงไปมากที่สุดในรอบ 16 เดือน ขณะที่การบริการขนส่งของซัพพลายเออร์อ่อนตัวจากสูงสุดรอบ 47 ปีที่ทำไว้ในเดือนพ.ค.

อย่างไรก็ดี ข้อมูลการผลิตถือเป็นสัดส่วน 11.9ของจีดีพีเศรษฐกิจสหรัฐฯ

 

·         ข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นในเดือนมิ.ย. แตะระดับ 0.1% โดยได้รับอานิสงส์จากภาคก่อสร้างเอกชน

สำหรับข้อมูลรายปีพบขยายตัวขึ้นแตะ 8.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ขณะที่ข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างจะมีสัดส่วนไม่น้อยกว่ 4% ของจีดีพี 

 

·         “คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์” สมาชิกบอร์ดบริหารของเฟด หนุนลด QE หากเป็นไปได้ควรเริ่มต้นเดือนต.ค. นี้

หากข้อมูลจ้างงานเดือนส.ค.  และก.ย. ขยายตัวได้ในกรอบ 800,000 ตำแหน่ง เพราะจะสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าใกล้กับระดับช่วงก่อนไวรัสระบาด

 

·         สมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันบางรายกล่าวโจมตีร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานฉบับประนีประนอมวงเงิน 1 ล้านล้านเหรียญ

ท่ามกลางวุฒิสภาสหรัฐฯที่พยายามจะดำเนินการร่วมกันให้เสร็จสิ้นในสัปดาห์นี้สำหรับร่างแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญ สำหรับการฟื้นฟูถนน, สะพาน และระบบการขนส่งมวลชน แต่ก็จะเห็นได้ถึงสมาชิกพรรครีพับลิกันบางส่วนที่เริ่มตำหนิรายละเอียดของแผน

โดยเมื่อวานนี้ บรรดาส.ว. เริ่มมีการลงมติโหวตแก้ไขร่างฉบับ 2,702 หน้า แต่การต่อสู้กันในสภาเรื่องรายละเอียดของแผนก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว อาทิตย์ นายแพท ทูมีย์ ส.ว. พรรครีพับลิกัน กล่าวถึงระบบการรายงานภาษีสำหรับ Cryptocurrency ก็ยังมีขอบเขตที่กว้างมากเกินไปและไม่สามารถนำมาใช้งานได้ และเขาก็มีแผนนำเสนอเพื่อทำการแก้ไขให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

 

·         “เจเน็ต เยลเลน” รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สั่งระงับการจ่ายเงินกองทุนประกันสังคม และการเกษียณ เพื่อกำหนดการจำกัดระดับหนี้สินครั้งใหม่

โดยมีวัตถุประสงค์ในการรักษาความสามารถด้านการกู้ยืมของรัฐบาลกลางภายใต้การควบคุมหนี้สิน และการระงับการลงทุนบางอย่างในกองทุนการเกษียณอายุ และสวัสดิการประกันสังคม

สำนักงบประมาณแห่งชาติสหรัฐฯ มีการประเมินว่า มาตรการพิเศษจะสามารถกู้คืนความสามารถด้านการกู้ยืมได้มากถึง 3.40 แสนล้านเหรียญภายใต้ข้อจำกัดดังกล่าว และการดำเนินการนี้ ควบคู่กับแนวทางในปัจจุบันในการรักษาดุลบัญชีเงินสดมูลค่า 4.59 แสนล้านเหรียญ อาจช่วยให้รัฐบาลสหรัฐฯสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนต.ค. หรือ พ.ย. ได้ รวมทั้งสามารถต่อสู้กับปัญหาการหาข้อตกลงกับพรรคฝ่ายค้าน รวมถึงเรื่องการระงับงบประมาณ หรือการเพิ่มเพดานหนี้

อย่างไรก็ดี ในช่วงปลายเดือนก.ค. นางเยลเลน เคยกล่าวเตือนว่า ในวันที่ 1 ต.ค. นี้ รัฐบาลจะเผชิญกับค่าใช้จ่ายพื้นฐาน 1.5 แสนล้านเหรียญ ขณะที่ปีงบประมาณ 2022 กำลังเริ่มต้นขึ้น

 

·         ผลสำรวจของ Fed Survey สะท้อนว่า บรรดาธนาคารกลางต่างๆมีการผ่อนปรนเงื่อนไขการกู้ยืมมาตรฐานสำหรับภาคธุรกิจ และภาคครัวเรือนในช่วงไตรมาสที่ 2/2021

ท่ามกลางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจอย่างเป็นวงกว้าง ควบคู่กับอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มสูงขึ้น  

 

·         แหล่งข่าวสหรัฐฯ เผย จีนมีการกำหนดเป้าหมายใหม่สำหรับบริษัทสหรัฐฯในการซื้อสินค้าจี

 

·         รัฐมนตรีอิหร่าน เตือน อิหร่านพร้อมทำการโต้กลับ หากมีภัยคุกคามด้านความมั่นคง หลังจากที่สหรัฐฯ อิสราเอล และอังกฤษตำหนิอิหร่านต่อเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันที่อิสราเอลจัดการนอกชายฝั่งโอมาน

ขณะที่อิหร่านให้การปฏิเสธว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้โดรนนโจมตีเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ที่ส่งผลให้มีลูกเรือ 2 รายที่เป็นชาวอังกฤษและโรมาเนียเสียชีวิต

 

 

·         CORONAVIRUS UPDATES:

 


ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกพุ่งสูงใกล้ทะลุ 200 ล้านราย ล่าสุดแตะ 199.55 ล้านราย

เสียชีวิตสะสมทั่วโลกทะยานแตะ 4.24 ล้านราย

 

 

·         Delta  Covid ระบาดเพิ่มทางตอนใต้ในสหรัฐฯ ส่งผลให้ผู้นำรัฐทางตอนใต้อยู่ในสภาวะค่อนข้างกดดัน

 

·         CDC สหรัฐฯ เผย ค่าเฉลี่ยยอดติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯช่วง 7 วันเพิ่มสูงขึ้นแตะจุดพีคในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ยอดเสียชีวิตจากการติดเชื้อก็กำลังเพิ่มสูงขึ้น ทางด้านการฉีดวัคซีนในสหรัฐฯก็กำลังเพิ่มสูงขึ้น

 

·         ศาสตรจารย์ด้านพันธุศาสตร์ระดับโมเลกุลและ Covid-19 ชี้ว่า สายพันธุ์ Delta แพร่หลายอย่างมาก ขณะที่สายพันธุ์ Epsilon (เอพซิลอน) ที่พบในปากีสถานยังไม่แพร่หลายมากนัก

 

·         Covid-19 กลายพันธุ์ พบสายพันธุ์ใหม่ในประเทศปากีสถาน ภายใต้ชื่อ “Epsilon”  ที่ส่งผลให้ปากีสถานเข้าสู่ระลอกที่ 4 ของการระบาดและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

บรรดาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ แสดงความกังวลและเชื่อว่าสายพันธุ์ Epsilon จะสามารถต้านประสิทธิภาพของวัคซีนได้ และถือว่าสายพันธุ์นี้เป็นภัยร้ายตัวใหม่ที่จะคุกคามผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนให้กลับมาติดเชื้อใหม่ได้อีกครั้ง ซึ่งมีผลเดียวกับ Delta ในด้านการระบาดได้ง่ายและทำให้มีอัตราการติดเชื้อสูงมากยิ่งขึ้

 

 

·         สถานการณ์ระบาดในไทยล่าสุดยังสาหัส

วันนี้รายงานพบติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 18,901 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตยังสูง 147 ราย ตอกย้ำถึงสถานการณ์การระบาดของโควิดโดยรวมของประเทศไทยนั้นยังคงวิกฤติ และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 652,185 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตรวม 5,315 รายแล้ว


·         ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 30 รวมครบทั่วราชอาณาจักร 77 พื้นที่ เผชิญ "ล็อกดาวน์" มีผล 3 - 31 สิงหาคม 2564

 

 

·         นักบริหารการเงินคาด เงินบาทซื้อขายในกรอบ 32.80-33.15 บาท/ดอลลาร์ โดยแนะจับตาปัจจัยสำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่

- การประชุมกนง. 4 ส.ค.
คาดมีมติคงดอกเบี้ยไว้ระดับต่ำสุดประวัติการณ์ 0.50
% และน่าจะแสดงความกังวลต่อสภาวะความเสี่ยงขาลงของเศรษฐกิจไทย จากสถานการณ์ระบาดที่มีแนวโน้มรุนแรง และยืดเยื้อ ท่ามกลางการขยายมาตรการ Lockdown ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความเปราะบางของตลาดแรงงาน และปัญหาสำคัญคือ การฉีดวัคซีนที่ช้ากว่าเป้าหมาย

ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อเดือนก.ค. ของไทย ยังบ่งชี้ถึงสภาวะอุปสงค์ที่อ่อนแอ


- ข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ 6 ส.ค.
หากข้อมูลเดือนก.ค.ออกมาดีเกินคาด อาจเห็นดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่ท่าทีเฟดล่าสุด ส่งผลให้เกิดกระแสความเป็นไปได้น้อยลงที่เฟดจะปรับลดมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรในการปรชุมเดือนก.ย.

 

 

·         อ้างอิงจากไทยรัฐ

- บล.ทิสโก้ ประเมิน หุ้นไทยเดือน ส.ค. 64 ซึมต่อ โควิดระบาดหนัก คาดเศรษฐกิจเสี่ยงถดถอย 2 ปีซ้อน

 


นอกจากนี้ ประเมินว่าจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่จะขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1.5-1.8 หมื่นคนในช่วงปลายเดือน ก.ค.ถึงต้นเดือน ส.ค.นี้ ก่อนที่จะทรงตัวในช่วงกลางเดือน ส.ค. และเริ่มมีสัญญาณการปรับตัวลดลงในช่วงปลายเดือน ส.ค. ส่งผลให้มาตรการล็อกดาวน์น่าจะเริ่มผ่อนคลายได้บางส่วนในเดือนกันยายนเป็นต้นไป หากเป็นเช่นนี้เศรษฐกิจไทยในปีนี้น่าจะไม่เติบโต หรือ +0% และคาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,500-1,510 จุด


ในกรณีแย่ หรือ Worst Case หากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทะลุหลัก 20,000 คนต่อวัน และมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่ยืดเยื้อกินเวลานานจนถึงเดือน ก.ย. มีความเสี่ยงสูงที่เศรษฐกิจไทยจะกลับสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ที่เศรษฐกิจไทยถดถอย 2 ปีซ้อน ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยจะมีโอกาสสูงที่จะปรับตัวหลุดระดับ 1,500 จุด


อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ากรณีใด ๆ จะต้องติดตามการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งน่าจะช่วยลดทอนผลกระทบในด้านลบต่อเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงได้

 

บขส. หยุดเดินรถโดยสารทุกเส้นทางทั่วไทย รับล็อกดาวน์ เริ่ม 3 ส.ค.64

 

·         อ้างอิงจากประชาชาติธุรกิจ

- คลังชี้หั่นเป้าจีดีพี ปี’64 มีสิทธิเศรษฐกิจโตต่ำแค่ 0.8%

กระทรวงการคลังแห่งประเทศไทย ปรับเป้าเศรษฐกิจไทยปี’64 เหลือ 1.3% คาดโตต่ำสุด 0.8% หลังโดนโควิดกระทบ คาดตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงเร็วสุดก่อนเดือน ต.ค. 64 ชี้นักท่องเที่ยวต่างชาติหด 95.5% ด้าน “ส่งออก” เป็นเครื่องยนต์หลักพยุงเศรษฐกิจ คาดขยายตัว 16.6%

- “สศค.-ทีทีบี” จี้เร่งฉีดวัคซีนโรงงาน ป้องกันเครื่องยนต์สุดท้ายเศรษฐกิจไทย

โดย ttb analytics ประเมินว่า การปิดคลัสเตอร์โรงงาน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมข้างต้น เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อควบคุมการระบาดจะก่อให้เกิดการสูญเสียมูลค่า 3.5 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 4% ของมูลค่าตลาด

ดังนั้น หากไม่สามารถควบคุมการระบาดคลัสเตอร์โรงงานได้ ภาครัฐต้องมีการล็อกดาวน์โรงงานเพิ่มขึ้น หรือขยายระยะเวลาปิดโรงงานออกไป คาดว่าจะทำให้ปัญหา supply disruption ชัดเจนมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกที่เป็นเครื่องยนต์หลักในการฟื้นเศรษฐกิจครั้งนี้



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com