• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 15 มกราคม 2564

    15 มกราคม 2564 | Economic News
  

·         ดอลลาร์อ่อนค่า หลังเฟดส่งสัญญาณยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ค่าเงินดอลลาร์รีบาวด์ในรอบต่ำสุดเกือบ 3 ปี ในวันนี้ หลังจาก นายเจโรม พาวเวล ประธานเฟด ยังคงอัตราดอกเบี้ยต่ำ และยังไม่มีการปรับขึ้นในเร็วๆนี้ ท่ามกลางการประกาศของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเยียวยาโควิด ซึ่งมีมูลค่า 1.9 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งไม่สามารถจะผลักดันให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าได้

โดยบิดคอยน์ ยังคงฟื้นตัว อย่างต่อเนื่อง หลังจากอ่อนค่าเกือบ 12,000 เหรียญ จากปรับขึ้นทะลุ 42,000 เหรียญในสัปดาห์ที่แล้ว โดยแตะระดับ 40,000 เหรียญในชั่วข้ามคืน

ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น หลังจากแตะระดับต่ำสุด นับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2018 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความคาดหวังของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีขึ้นเหนือ 1% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม

ทั้งนี้นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์อาจจะฟื้นตัวหลังจากที่ลดลงเกือบ 7% ในปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลอื่น เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จากวิกฤตไวรัสโควิด แต่ก็มีความกังวลมากขึ้นว่าอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง

โดยดัชนีดอลลาร์ เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ที่ ระดับ 90.319 หลังลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา

ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าขึ้น 0.1% ที่ 103.77 เยน/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่า 0.1% ที่ระดับ 1.21395 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งอ่อนค่าติดต่อกันสามวันทำการ

Bitcoin ปรับลงเล็กน้อย  0.1% โดยอยู่แถวระดับ 38,729 เหรียญ หลังจากปรับสูงขึ้น ที่ระดับ 40,112.78 เหรียญเมื่อคืนนี้

 

·         นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีของสหรัฐฯ กล่าวว่า ยืนยันที่จะดำรงรักษาประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ และรับประกันว่าการถ่ายโอนอำนาจให้กับนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นไปอย่างปลอดภัย หลังจากเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมาเกิดเหตุจลาจลที่มีกลุ่มผู้สนับสนุนนายโดนัล ทรัมป์ บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯเพื่อขัดขวางการรับรองชัยชนะของนายไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

 

·         ฝ่ายบริหารของนายโดนับด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขึ้นบัญชี Xiaomi Corp ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 2 ของจีน เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าเชื่อมโยงทางทหารพร้อมกับบริษัทน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของจีน โดยอ้างเหตุผลว่าบริษัทดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับกองทัพจีน

ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการกดดันจีนก่อนที่นายโจ ไบเดน จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯในวันที่ 20 ม.ค.ที่จะถึงนี้

 

·         สงครามเทคโนโลยีของจีนกับทรัมป์ ส่งผลให้ชิปขาดตลาดทั่วโลก

ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกกำลังประสบปัญหาการผลิต เนื่องจากการขาดแคลนชิ้นส่วน เซมิคอนดักเตอร์ หรือ สารกึ่งตัวนำ รถยนต์ที่สำคัญ ทั้งนี้ในบางกรณีได้รับผลกระทบจากภายใต้การบริหารของทรัมป์โดยตรง ได้แก่ โรงงานชิปหลักของจีน

ปัญหาการขาดแคลน ส่งผลให้อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ชุดชะงัก ได้แก่ Ford Motor Co, Subaru Corp และ Toyota Motor Corp ลดการผลิตในสหรัฐอเมริกา

 

·         จีน ต่อต้าน มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหรัฐฯ

จีนต่อต้านมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหรัฐฯ โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และ บริษัทต่างๆกล่าวหาการกระทำผิดในทะเลจีนใต้ ซึ่งมีข้อพิพาทเช่นเดียวกันกับการแบนบริษัท แห่ง ในจีน

 

·         ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการดำเนินการทางตลาดในวันนี้ เพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาด โดยอัดฉีดเงินจำนวน 5 แสนล้านหยวน (7.728 หมื่นล้านเหรียญ) เข้าสู่ตลาดผ่านทางโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) โดยโครงการดังกล่าวมีอายุการไถ่ถอนในระยะเวลา 1 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 2.95%

 

 

·         ทีมนักวิจัยจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่จะแกะรอยต้นกำเนิดของไวรัสโคโรนา ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างยากลำบาก หลังจากเจ้าหน้าที่ รายในคณะตัวแทนถูกห้ามไม่ให้เข้าประเทศจีนหลังจากการทดสอบออกมาเป็นบวก

 

·         เศรษฐกิจอังกฤษกลับมาหดตัวในเดือน พ.ย. ท่ามกลางการล็อคดาวน์ครั้งใหม่

เศรษฐกิจของอังกฤษหดตัว 2.6% ในเดือน พ.ย. นับเป็นเดือนแรกที่ผลผลิตลดลง ตั้งแต่อังกฤษได้มีมาตรการล็อคดาวน์ในช่วงเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ถึงการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจของรอยเตอร์ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจหดตัว 5.7% ซึ่งลดน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้มาก 

 

·         คณะกรรมการการท่องเที่ยวของฮ่องกง ระบุว่า ยอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังฮ่องกงในปี 2020 ร่วงลง 93.6% เมื่อเทียบปีต่อปี แตะ 3.57 ล้านรายซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากฮ่องกงจำกัดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ และใช้มาตรการกักตัวที่เข้มงวดเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

 

·         รัฐบาลอินเดียเตรียมพูดคุยรอบใหม่ เพื่อยุติการประท้วงโดยเกษตรกรอินเดีย

รัฐบาลอินเดียจะจัดการเจรจาครั้งใหม่ กับผู้นำของเกษตรกรหลายหมื่นคน ที่ตั้งชุมนุมอยู่ที่บริเวณกรุงนิวเดลีเป็นเวลาเกือบสองเดือนเพื่อประท้วงการยกเลิกกฎหมายเกษตรฉบับใหม่ที่คุกคามการดำรงชีวิตของชาวเกษตรกร

 

·         ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวที่อินโดฯเพิ่มเป็น 11 ราย เตือนอาจเกิดสึนามิ

รายงานว่า แผ่นดินไหวขนาด 6.2 แมกนิจูดเกิดขึ้นห่างจากพื้นที่ตอนใต้ของเมืองมามูจู ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัดสุลาเวสีตะวันตก (West Sulawesi) ประมาณ 36 กิโลเมตรเมื่อเวลา 02.28 น.ตามเวลาท้องถิ่นในวันนี้ โดยจุดที่เกิดแผ่นดินไหวมีความลึกประมาณ 18.4 กิโลเมตร

 

·         น้ำมันปรับลดลงเนื่องการมาตรการณ์ล็อกดาวน์ของจีน ขณะที่ข้อมูลการว่างงานของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันดิบปรับลดลดเนื่องจากความกังวลการล็อกดาวน์ในจีนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลกและแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ

น้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 71 เซนต์ หรือ 1.2% ที่ระดับ 55.71 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.6% ในเมื่อวาน น้ำมันดิบ WTI ลดลง 46 เซนต์ หรือ 0.9% ที่ระดับ 53.11 เหรียญ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 1%

น้ำมันดิบ Brent ปรับลดลงรายสัปดาห์เป็นครั้งแรกในรอบสามสัปดาห์ในขณะที่น้ำมันดิบของสหรัฐอยู่ในระหว่างการปรับตัวขึ้นต่อสัปดาห์ที่สาม


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com