• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 27 ตุลาคม 2563

    27 ตุลาคม 2563 | SET News
   

· หุ้นเอเชียปรับลดลง ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มสูงขึ้น กดดันเศรษฐกิจโลก

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง เนื่องจากเหล่านักลงทุนกังวลเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ซึ่งทำให้แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความคืบหน้าข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯช้าลงไป

อย่างไรก็ตาม หุ้นสหรัฐฯมีการฟื้นตัวขึ้น โดยดัชนีS&P 500 E-mini Futures เพิ่มขึ้น 0.23% และดัชนี FTSE ฟิวเจอร์ส ของลอนดอนขยับขึ้น 0.02%

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นลดลง 0.43% ขณะทีด่ัชนี ASX 200 ออสเตรเลีย ลดลง 1.7%


· HSBC เผยผลประกอบการดิ่ง 36% ในช่วงไตรมาสที่ 3 (แต่ดีกว่าที่คาด) เนื่องจากการตั้งสำรองหนี้เสียที่เกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นนั้น ได้รับการชดเชยด้วยการควบคุมการใช้จ่าย HSBC ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของยุโรปในด้านสินทรัพย์นั้น มีกำไรก่อนหักภาษี 3.1 พันล้านดอลลาร์สำหรับไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย. ลดลงจาก 4.8 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่สูงกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์โดยเฉลี่ยไว้ที่ 2.07 พันล้านดอลลาร์


· หุ้นญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย จากผลประกอบการที่ดีขึ้นชดเชยผลกระทบจากไวรัสโคโรนา

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงเล้กน้อย ท่ามกลางการประกาศผลประกอบการภาคบริษัทที่แข็งแกร่งจากผู้ผลิตกล้องและเครื่องถ่ายเอกสาร Canon จึงช่วยหนุนหุ้นภาคการท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ที่ร่วงลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา

โดยช่วงต้นการซื้อขายดัชนีร่วงลงไป 1.1% ก่อนจะปิดทรงตัวบริเวณ 23,485.80 จุด ด้านดัชนี Topix ลดลง 0.09% ที่ระดับ 1,617.53 จุด

ตลาดได้รับแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่ดีขึ้นโดย Canon เพิ่มขึ้นกว่า 8% หลังจากที่เพิ่มแนวโน้มผลประกอบการประจำปีและผู้ให้บริการพอร์ทัลทางกฎหมาย Bengo4.com เพิ่มขึ้น 7.5%

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนโดยรวมยังคงอ่อนแอลงเนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นจากการติดเชื้อระลอกสองในสหรัฐฯและยุโรปกดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา


· หุ้นกลุ่มสุขภาพและวัสดุหนุนหุ้นจีนสูงขึ้น

หุ้นเซี่ยงไฮ้ปิดตัวสูงขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นวัสดุและบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ

ด้านข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติแสดงให้เห็นว่า ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมของจีนเพิ่มขึ้น 10.1% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบเป็นรายปีซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกันทุกเดือน แต่ก็ชะลอตัวลงจากเดือนส.ค.ที่มีการขยายตัวแข็งแกร่งถึง 19.1%

ผลสำรวจจาก Reuters ระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนคาดว่าจะแตะระดับต่ำสุดในรอบ 44 ปีในปี 63 เนื่องจากประเทศฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำที่เกิดจากไวรัสโคโรนา

ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปิด +0.1% ที่ระดับ 3,254.32 จุด ด้านดัชนี blue-chip CSI300 +0.17%

· หุ้นยุโรปเปิดตลาดผสมผสานหลังจากเกิดแรงเทขายทำกำไร และตลาดสนใจการเพิ่มขึ้นของไวรั

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดผสมผสานหลังจากที่เผชิญแรงเทขายทำกำไรในวันก่อน ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ยังคงจับตาและให้ความสนใจกับการระบาดของไวรัสโคโรนาที่เพิ่มมากขึ้นทั่วทุกพื้นที่

ดัชนี Stoxx 600 ปรับขึ้น 0.15% ด้านหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น 1.7% หลังทราบรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และหุ้นกลุ่มทรัพยากรปรับลงมา 0.9%

หุ้น Blue Chip ในตลาดยุโรปร่วงลงแรงวานนี้ 1.8% ท่ามกลางยอดติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศหลักๆทางแถบยุโรป และโอกาสที่จะเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯถูกเลื่อนออกไป ทั้งหมดนี้จึงกระทบความเชื่อมั่นของตลาด


· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นายกฯ ประกาศสนับสนุนแก้รัฐธรรมนูญ-ทำประชามติ ยืนยันจำเป็นต้องอยู่ทำหน้าที่ต่อ หากออก ครม.พ้นทั้งคณะด้าน "วิษณุ" กางไทม์ไลน์ ธ.ค.สภาฯ คลอดกฎหมายประชามติก่อนทูลเกล้าฯ ขณะที่ ปชป.จี้รัฐบาลเร่งดันโหวต 6 ญัตติ-ร่างฉบับประชาชนวาระแรก "จุรินทร์" เสนอตั้ง กมธ.3 ฝ่ายหาทางออก

- "สุริยะ" ย้ำชัดปัญหาการเมืองไทย ขณะนี้ไม่กระทบตัดสินใจลงทุนใน "อีอีซี" เหตุนักลงทุนเคยชินแล้ว ลั่นแม้การเมืองเปลี่ยน แต่นโยบายพัฒนาอีอีซีไม่เปลี่ยนแปลง ลั่นอีอีซีเป็นเสมือนเครื่องจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง มั่นใจต่างชาติยังสนใจลงทุนไทยแน่นอน

อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ

- หุ้นไทยวันนี้ (27 ต.ค.) ปิดตลาดภาคเช้า -1.67 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,206 จุด

การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (27 ต.ค.63) ดัชนี SET Index ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 1,206.30 จุด ปรับลง -1.67 จุด หรือคิดเป็น -0.14% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 22,214 ล้านบาท เคลื่อนไหวในกรอบ 1,197.74-1,206.68 จุด โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ SCGP AOT และ CPALL

ดัชนี SET50 ล่าสุดปรับลง -1.72 จุด หรือคิดเป็น -0.23% อยู่ที่ 756.13 จุด มูลค่าซื้อขายรวม 10,811 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 48.67% ของมูลค่าซื้อ-ขายในตลาด SET


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com