• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 24 สิงหาคม 2563

    24 สิงหาคม 2563 | Gold News

ทองร่วงหลังดอลลาร์รีบาวน์ ภาพรายสัปดาห์ร่วงลงสัปดาห์ที่ 2

· ราคาทองปรับลงมากถึง 1.6% ทำต่ำสุดแถว 1,910.99 เหรียญ ในคืนวันศุกร์ตามการรีบาวน์ของดอลลาร์ โดยปรับแข็งค่ามา 0.6% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ จึงกดดันความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย แม้จะรีบาวน์กลับขึ้นมาได้บ้างแต่ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.3% ที่ 1,937.81 เหรียญ ทางด้านสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด -0.5 เซนต์ ที่ 1,947 เหรียญ


· สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ปรับลง 0.3% ขณะที่สัปดาห์ก่อนปรับลงไปมากถึง 3%


· กองทุนทองคำ SPDR ยังไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมและถือครองระดับ 1,252.38 ตันมาตลอดช่วง 5 วันทำการ


· นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าวว่า ดอลลาร์ที่ปรับแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง 2-3 วันที่ผ่านมาจึงเป็นปัจจัยกดดันทอง พร้อมกล่าวว่าทองคำยังเป็นขาขึ้น โดยมีแนวต้านสำคัญ 2,000 เหรียญ และแนวรับที่ทองคำมีโอกาสทดสอบ 1,860 เหรียญ


· นักวิเคราะห์ CMC Markets กล่าวว่า ทองคำจะขึ้นได้ต่อจนกว่าจะเห็นความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หรือตึงเครียดสหรัฐฯและจีนว่าจะออกมาบวกหรือลบ

ทั้งนี้ การที่ราคายืนเหนือ 1,900 เหรียญ ยังไม่เป็นเรื่องน่ากังวลแม้ดอลลาร์จะแข็งค่า แต่ทองคำก็อยู่ในสภาวะของการปรับฐาน


· ราคาซิลเวอร์ปิด -2.3% ที่ 26.60 เหรียญ แต่ภาพรวมรายสัปดาห์ปรับขึ้นเกือบ 1%


· ราคาแพลทินัมปิด -1.7% ที่ 902.62 เหรียญ และพลาเดียมปิด -0.4% ที่ 2,163.50 เหรียญ


· สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯผ่านร่างงบ 2.5 หมื่นล้านเหรียญ สำหรับหน่วยงานไปรษณีย์

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านงบ 2.5 หมื่นล้านเหรียญ แก่สำนักงานไปรษณีย์สหรัฐฯ เพื่อให้การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่วงหน้าปลายปีนี้เป็นไปอย่างราบรื่น และเพื่อปกป้องไม่ให้ สำนักงานไปรษณีย์มีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินการใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการลำเลียงบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ ในการเลือกตั้งวันที่ 3 พ.ย. นี้

โดยร่างดังกล่าวได้รับมติเห็จชอบจากการโหวต 257 จาก 150 เสียง ซึ่งจำนวน 26 เสียงจากพรรครีพับลิกันต่างก็ให้การสนับสนุนร่างฯนี้

นอกจากนี้ยังเป็นการปรับปรุงใหม่ภายใต้ผู้อำนวยการไปรษณีย์ นายหลุยส์ เดอจอย เนื่องจากขอบเขตของเวลาและเวลาที่ลดลง ทำให้พรรคเดโมแครตกังวลเกี่ยวกับการขัดขวางการลงคะแนนเสียงผ่านทางไปรษณียบัตร ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

ในขณะที่พรรครีพับลิกันคัดค้านข้อเสนอนี้ จึงมีผลเพียงเล็กน้อยที่จะผ่านการควบคุมของวุฒิสภาควบคุมโดยพรรครีพับลิกัน

อย่างไรก็ตาม วุฒิสภาของพรรครีพับลิกันและเดโมแครตได้เสนอแผนการที่จะใช้เงินจำนวน 2.5 หมื่นล้านเหรียญ ในการบริการไปรษณีย์ ซึ่งยังไม่เป็นข้อแน่ชัดว่าข้อเสนอนี้จะผ่านหรือไม่


· “ทรัมป์” พิจารณาการใช้ Fast Track กับบริษัทผลิตวัคซีน AstraZeneca ก่อนการเลือกตั้ง

รายงานจาก Financial Times เผยว่า ทีมบริหารของนายทรัมป์ เปิดเผยถึงการพิจารณาการใช้ Fast Tracking สำหรับการอนุมัติการพัฒนาวัคซีน Covid-19 ในอังกฤษสำหรับการใช้ในสหรัฐฯให้ได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาความร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัย Oxford และบริษัทยา AstraZeneca


· สถานการณ์ไวรัสโคโรนา:

ยอดติดเชื้อทั่วโลกทะยานเหนือ 23.5 ล้านราย ขณะที่เสียชีวิตรวมทะลุ 8 แสนราย

ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดขยับขึ้นมาที่ 23.57 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 812,157 ราย ในส่วนของสหรัฐฯยังครองอันดับ 1 ที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดของโลก โดยล่าสุดยอดติดเชื้อสหรัฐฯมีมากกว่า 5.87 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตทะลุ 180,000 รายเป็นที่เรียบร้อย

ด้านอินเดียยอดติดเชื้อทะลุ 3.1 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อยในช่วงเปิดทำการทางเศรษฐกิจ ขณะที่รายงานจากรัฐวิคทอเรียของประเทศออสเตรเลียพบยอดติดเชื้อใหม่ลดลงมากที่สุดในช่วง 7 สัปดาห์

สำหรับรายงานยอดติดเชื้อในบราซิล ซึ่งเป็นประเทศลำดับที่ 2 ที่มีการติดเชื้อมากที่สุดของโลก พบยอดติดเชื้อสะสมในบราซิลทะลุ 3.6 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมสูงกว่า 114,744 ราย ทางด้าน WHO มองว่า การระบาดของเชื้อไวรัสในบราซิลนั้นมีแนวโน้มจะปรับตัวลงอย่างมีเสถียรภาพ

อย่างไรก็ดี การระบาดของๆไวรัสโคโรนา ดูจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจในจีนที่เกี่ยวข้องกับยอดขายชุดแต่งงาน และทำให้การจัดงานเฉลิมฉลองพิธีวิวาห์ปรับลดลงไป


· Fitch Ratings ชี้ การระบาดของไวรัสโคโรนาจะส่งผลให้การเติบโตของธนาคารดิจิทัลเอเชียเจริญเติบโตได้ยาก

สถาบัน Fitch Ratings ระบุว่า เมื่อพิจารณาจากธนาคารดิจิทัลในเอเชียจะพบว่ามีความยากลำบากในการสร้างโอกาสต่างๆอันเนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ขณะที่การระบาดไปทั่วโลกก็ดูจะสร้างความไม่สมดุลระหว่างกันทั้งจากกลุ่มประชากรและภาคธุรกิจที่มีกำลังการกู้ยืมที่อ่อนแอลง


· จากผลการสำรวจชาวอังกฤษจำนวนมากปฏิเสธวัคซีนต้าน COVID-19 “วัคซีนชาตินิยม”

จากผลสำรวจที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันนี้ เผยให้เห็นว่าชาวอังกฤษจำนวนมากปฏิเสธที่จะเข้ารับวัคซีน COVID-19 หรือ “วัคซีนชาตินิยม” และพวกเขาได้กล่าวว่าจะรอจนกว่าผู้ทำงานด้านสุขภาพในแต่ละประเทศจะมีวัคซีนที่จะช่วยให้การแพร่ระบาดจบลงในเร็วๆนี้


· ธนาคารจีนเผยผลประกอบการครึ่งปีแรกร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 10 ปีเพราะได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา

รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ภาคธนาคารขนาดใหญ่บางแห่งในจีนมีการเปิดเผยผลกำไรในช่วงครี่งปีแรกที่ร่วงลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เคยเกิดวิกฤตทางการเงิน โดยได้รับผลกระทบจากหนี้เสียและการสูญเสียการกู้ยืมในช่วงการเกิดการระบาดของไวรัสโคโรนา

สำนักงาน CBIRC ของจีน เผยว่า ภาคธนาคารพาณิชย์ของจีนโดยรวมมีผลประกอบการลดลง -9.4% ในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่ 6 ธนาคารขนาดใหญ่มีผลประกอการลดลงมากถึง 12% เมื่อเทียบรายปี

ขณะที่คณะรัฐมนตรีของจีน เผยในเดือนมิ.ย.ว่า เจ้าหน้าที่จะทำการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่สถาบันการเงินประมาณ 1.5 ล้านล้านหยวน (2.12 แสนล้านเหรียญ) ในปีนี้เพื่อสนับสนุนภาคบริษัทฯด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการให้กู้ยืมและเลื่อนการจ่ายเงินกู้ทุกประเภท


· ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีน ล่าสุดสหรัฐฯเข้าร่วมกับพิธีรำลึกของไต้หวันเป็นครั้งแรกสำหรับ "วิกฤติช่องแคบไต้หวันครั้งที่สอง" สมัยสงครามเย็น

ด้านจีนได้เพิ่มการจัดกิจกรรมทางทหารรอบแนวเกาะไต้หวัน ท่ามกลางรัฐบาลไต้หวันที่มีการประณามว่าจีนมีความพยายามข่มขู่บังคับให้พวกเขายอมรับการปกครองของจีน


· เกาหลีใต้ - จีน จะทำการจัดประชุมระดับสูงอีกครั้ง นับตั้งแต่ที่เกิดการระบาดของ Covid-19

รายงานจากทางเกาหลีใต้ เผยว่าได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทางการทูตระดับสูงของจีนในเรื่องการค้า, การปลดอาวุธนิวเคลียร์ และการรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในการเจรจากันนับตั้งแต่ที่เกิดการระบาดของไวรัสโคโรนามาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีการหารือถึงประเด็นการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีร่วมกัน รวมถึงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ตลอดจนประเด็นการเลือกตั้งผู้อำนวยการ WTO


· นายกฯจีน ชี้ เศรษฐกิจจีนอาจโตได้ต่อในปีนี้

นายหลี่ เคอะเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีนกล่าวว่าปีนี้เศรษฐกิจจีนอาจเติบโตได้มากขึ้น หลังจากที่ช่วงไตรมาสที่ 2/2020 ที่ผ่านมาจีนโตได้ 3.2% ซึ่งถือเป็นการฟื้นตัวได้จากระดับหดตัวมากครั้งประวัติการณ์จากการยกเลิกการใช้มาตรการ Lockdownของจีน ขณะที่บรรดาเจ้าหน้าที่ต่างก็เพิ่มมาตรการสนับสนุนทางเศรษฐกิจในการต่อสู้กับวิกฤตในครั้งนี้ และเขายังคาดหวังว่าจะเห็นประชาชนกว่า 9 ล้านรายได้รับการจ้างงานครั้งใหม่ภายในปีนี้ด้วยเช่นกัน


· นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ไว้ที่ระหว่าง 31.20-31.70 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ถ้อยแถลงของประธานเฟดในการประชุมประจำปีของเฟดที่แจ็กสัน โฮล (27-28 ส.ค.) สถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน และสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE/Core PCE Price Indices เดือนก.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2563 (ครั้งที่ 2) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามข้อมูลการส่งออกของไทยในเดือนก.ค. และสถานการณ์การเมืองในประเทศด้วยเช่นกัน


· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ แถลงข่าวเปิด "โครงการ DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง" (โครงการดีอาร์บิส) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจที่มีเจ้าหนี้สถาบันการเงินหลายรายให้ได้รับการบรรเทาภาระหนี้และให้มีกลไกในการจัดการหนี้กับสถาบันการเงินทุกแห่งได้อย่างบูรณาการ

- โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.เป็นประธาน ได้เห็นชอบตามข้อเสนอของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในการขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1-30 ก.ย.63 จากที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ส.ค.นี้

- ประธานกรรมการบริหาร บริษัท PwC ประเทศไทย คาดว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 ปีในการฟื้นตัวกลับมาสู่ปกติหลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากสร้างผลกระทบอย่างมากต่อหลายธุรกิจ


· อ้างอิงจากสำนักข่าวไทยรัฐ

- นักศึกษา 4 สถาบัน ประกาศจุดยืนการชุมนุมแบบใหม่ "ไร้แกนนำ" หลังลานคนเมือง

- กองทัพเรือ เตรียมแถลงปมซื้อ “เรือดำน้ำ” 2 ลำ หลังเพื่อไทยปูดพบพิรุธสัญญา โดยล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (24 ส.ค. 2563) เวลา 13.30 น. พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ จะมอบหมายให้ พล.ร.ท.ระชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ แถลงข่าวในประเด็นต่างๆ กรณีการจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการในกองทัพเรือ.


อ่านข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่: www.mtsgold.co.th

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com