• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 6 สิงหาคม 2563

    6 สิงหาคม 2563 | Economic News
 

· ดอลลาร์อ่อนค่าจากนักลงทุนที่ขานรับข้อมูลจ้างงานไม่สดใส

ดอลลาร์อ่อนค่าลงท่ามกลางนักลงทุนที่วิตกกังวลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐฯ ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ดูจะฟื้นตัวกลับได้อย่างช้าๆ

ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.1% ที่ 92.719 จุด โดยอ่อนค่าลงจากวันก่อนประมาณ 0.5% และมีการเคลื่อนไหวใกล้ต่ำสุดรอบ 2 ปีที่ทำไว้ในวันศุกร์ที่แล้วบริเวณ 92.539 จุด

ค่าเงินยูโรทรงตัวที่ระดับ 1.1874 ดอลลาร์/ยูโณ หลังจากที่ศุกร์ที่แล้วไปทำสูงสุดที่ 1.1908 ดอลาร์/ยูโร

ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 105.52 เยน/ดอลาร์

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ระบุถึงความยากลำบากในการหาข้อตกลงฉบับใหม่ร่วมกัน และในช่วงปลายสัปดาห์นี้ก็ยังไม่มีสัญญาณว่าจะเกิดข้อตกลงร่วมกันได้

ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นใกล้สูงสุดรอบ 4 เดือนที่ทำไว้เมื่อวันศุกร์บริเวณ 1.3170 ดอลลาร์/ปอนด์ โดยล่าสุดอยู่แถว 1.3137 ดอลลาร์/ปอนด์

บีโออีมีแนวโน้มจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิต่อไป

ค่าเงินหยวนทรงตัวที่ 6.9423 หยวน/ดอลลาร์ หลังไปทำแข็งค่ารอบ 5 เดือนที่ 6.9324 หยวน/ดอลลาร์


· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับลดลง ก่อนการประกาศข้อมูลการว่างงานสหรัฐฯ

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงมาบริเวณ 0.5428% ขณะที่อัตราผลตอบแทนอายุ 30 ปี ปรับลงมาที่ 1.2161%


· ธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงดอกเบี้ยที่ 0.1%, คงวงเงิน QE จำนวน 7.45 แสนล้านปอนด์

ธนาคารกลางอังกฤษ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.10% ในการประชุมวันนี้ และคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 7.45 แสนล้านปอนด์

พร้อมทั้ง ยังส่งสัญญาณว่าจะไม่คุมเข้มนโยบายการเงินจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะเคลื่อนตัวสู่ระดับเป้าหมายอย่างยั่งยืน


· ยอดบ้านใหม่ที่รอก่อสร้างของอักฤษในปีนี้อาจลดลง 40% จากไวรัสโคโรนา

นายโรเบิร์ต เจนเกน รัฐมนตรีกระทรวงการเคหะของอังกฤษ กล่าวว่า จำนวนบ้านใหม่ที่รอการก่อสร้างในอังกฤษอาจลดลงมากถึง 40% ในปีนี้เนื่องจากผลกระทบของการระบาดของไวรัสโคโรนา

โดยระบุว่า จากการระบาดของไวรัสดังกล่าวส่งผลให้จำนวนบ้านใหม่ที่รอการก่อสร้างในปีนี้จะลดลง 240,000 ซึ่งอาจจะน้อยกว่านั้น 30 หรือ 40%

ทั้งนี้ จะต้องดูว่าเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็วเพียงใด เป็นเรื่องที่ท้าทายมากสำหรับอุตสาหกรรมนี้


· คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเยอรมนีปรับขึ้นจากสัญญาณการฟื้นตัวครั้งใหม่

ยอดคำสั่งซื้อในเยอรมนีปรับตัวขึ้นในเดือนมิ.ย. จากสัญญาณทางเศรษฐกิจ่าสุดที่เริ่มฟื้นตัวหลังได้รับผลกระทบจากการ Lockdown แต่ปริมาณการเติบโตก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดการระบาด

คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมในเดือนมิ.ย. ปรับตัวสูงขึ้น 27.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หรือปรับขึ้นได้กว่าเท่าตัวจากระดับ 10.4% ที่ทำไว้ในเดือนพ.ค. แต่ภาพรวมก็็ยังอยู่ต่ำกว่าระดับช่วงก่อนเกิดการระบาดของไวรัสในเดือนก.พ. บริเวณ11.3%

ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อภายในประเทศเติบโตได้ถึง 35.3% มากกว่าคำสั่งซื้อจากประเทศที่ขยายตัวได้เพียง 22%


· อินโดนีเซียเริ่มต้นทดลองวัคซีน Covid-19 ในมนุษย์สัปดาห์หน้า

โดยเป็นการร่วมมือกันของบริษัท Bio Farma ของอินโดนีเซีย และบริษัท Sinovac Biotech Ltd, ของจีน ทั้งนี้ กระบวนการทดลองในฟสที่ 3 จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 11 ส.ค. โดยจะมีผู้ร่วมทำการทดลอง 1,620 ราย ในช่วงอายุระหว่าง 18 - 59 ปี


· ไทยเลื่อนแผนเปิดประเทศ (Travel Bubble) จากยอดติดเชื้อในเอเชียปรับขึ้น

ประเทศไทยเลื่อนแผนเปิดประเทศจากยอดติดเชื้อโคโรนาจากประเทศอื่นๆในเอเชีที่เพิ่มขึ้น และดูจะยิ่งกดดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งไทยถือเป็นเจ้าแรกที่ริเริ่มไอเดียจะให้มีบางประเทศเดินทางเข้าไทยได้ในเดือนมิ.ย. โดยจะเลือกจากประเทศที่มีการติดเชื้อระดับต่ำ


· น้ำมันดิบเคลื่อนไหวผสมผสาน ท่ามกลางไวรัสโคโรนาที่ส่งผลกระทบต่อปริมาณความต้องการเชื้อเพลิง

ราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวผสมผสานกันในวันนี้ เนื่องจากการปรับอ่อนค่าลงของค่าเงินดอลลาร์ จึงช่วยชดเชยความกังวลบางส่วนเกี่ยวกับความต้องการเชื้อเพลิงที่อาจหยุดชะงักเนื่องจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 8 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.19% ที่ระดับ 42.11 เหรียญ/บาร์เรล ขระที่ ราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.44% ที่ระดับ 45.37 เหรียญ/บาร์เรล


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com