· ดอลลาร์อ่อนค่าทำต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทำระดับต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ จากกลุ่มนักลงทุนที่ลดการถือครองดอลลาร์ในฐานะ Safe-Haven ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีวานนี้ปรับตัวขึ้น และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าความเชื่อมั่นในตลาดจะเป็นไปอย่างระมัดระวังต่อจำนวนยอดผู้ติดเชื้อใหม่ที่กำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ
ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นทำสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ ด้านค่าเงินในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ อย่าง ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และแคนาดาดอลลาร์ปรับขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.5% ที่ 96.448 จุด เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่
นักวิเคราะห์บางรายได้วิเคราะห์ไว้ตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์เกี่ยวกับภาวะ Death Cross ในค่าเงินดอลลาร์ ที่ถือเป็นสัญญาณยืนยันภาวะตลาดหมีของดอลลาร์ หลังเส้นค่าเฉลี่ย MA ราย 50 วัน ตัดลงกับเส้นค่าเฉลี่ย MA ราย 200 วัน
นักวิเคราะห์จาก BofA อ้างถึงภาวะ Death Cross ที่เกิดขึ้นว่าหลังเกิดสภาวะแบบนี้เราจะเห็นได้ถึงการอ่อนค่าของดอลลาร์มากถึง 8 ครั้งจาก 9 ครั้งในปี 1980
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.6% ที่ 1.1338 ดอลลาร์/ยูโร
ค่าเงินเยนแข็งค่ากลับลงมาที่ 107.25 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปิด +0.6% แข็งค่ามาที่ 1.2588 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังรัฐมนตรีการคลังอังกฤษให้คำมั่นจะทำการช่วยเหลือวงเงิน 3 หมื่นล้านปอนด์ (3.77 หมื่นล้านเหรียญ) เพื่อกู้วิกฤตคนว่างงานด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินให้ภาคบริษัทต่างๆ เพื่อให้เกิดความสามารถในการกลับมาจ้างงาน รวมทั้งพิจารณาลดภาษีแก่บริษัทในกลุ่มการบริการ และภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้าน
· Coronavirus live updates:
Ø ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดทะลุ 12 ล้านราย สู่ระดับ 12,153,559 ราย
Ø ยอดเสียชีวิตทั่วโลกรวมล่าสุด 551,154 ราย
Ø ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสในสหรัฐฯล่าสุด 3,156,997 ราย
Ø ยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯล่าสุด 134,829 ราย
รายงานยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ในสหรัฐฯรายวันยังคงปรับตัวขึ้นทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะทางตอนใต้และตะวันตกของประเทศ และถึงแม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทะลุ 3 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อย แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯก็ยังคงเรียกร้องให้สถานศึกษากลับมาเปิดทำการตามปกติ
- ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศสรุปยอดผู้ป่วย Covid-19 ในสถานพยาบาลเวลานี้มีมากถึง 50,000 ราย พร้อมระบุว่ายอดผู้ติดเชื้อรายวันดูจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงรายงานผลผู้ติดเชื้อจากโรงพยาบาลในพื้นที่ โดยจะพบว่าในช่วงเวลากว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อที่เข้ารักษาอาการในโรงพยาบาลพุ่งขึ้นกว่า 44% และมียอดการเข้ารักษาตัวใน ICU เพิ่มขึ้น 34%
สิ่งที่น่าสนใจคือจำนวนยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนียเวลานี้เป็นกลุ่มคนวัยรุ่นมากขึ้น กว่าช่วงก่อนที่พบว่าเป็นกลุ่มคนสูงอายุ
· ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ คาดอัตราว่างงานจะลดลงแตะ 7% ได้ในปีนี้
นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ แสดงความคิดเห็นเชิงบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯว่าอาจเห็นจ้างงานปรับตัวลงจากระดับปัจจุบันได้ภายในปีนี้
ทั้งนี้ ในช่วงหลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อัตราว่างงานมีการทำสูงสุดที่ 11.1% แต่ในปีนี้เราเชื่อว่าอัตราว่างงานจะอยู่ต่ำกว่าโดยคาดอยู่ที่7%
· น้ำมันดิบปิดปรับตัวลดลงจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นสร้างความกังวลด้านอุปทาน
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงในช่วงต้นตลาดวานนี้ ท่ามกลางข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับคาดการณ์เกี่ยวกับผลผลิตน้ำมันปีนี้ที่จะออกมาแย่จึงสร้างความกดดันว่าจะเกิดภาวะอุปทานล้นตลาด
น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับลง 13 เซนต์ หรือ -0.3% ที่ 42.95 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปรับลง 10 เซนต์ หรือ -0.3% ที่ระดับ 40.52 เหรียญ/บาร์เรล
ภาพรวมน้ำมันดิบยังเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อยและมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตลาดเผชิญกับความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนาที่จะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมัน