• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 8 กรกฎาคม 2563

    8 กรกฎาคม 2563 | Economic News
  

· ดอลลาร์ทรงตัวทิศทางแข็งค่าท่ามกลางกังวลไวรัสโคโรนากดดันตลาด

ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวในทิศทางแข็งค่าขึ้นท่ามกลางจำนวนยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มมากขึ้นในสหรัฐ และการกลับมา Lockdown ในบางแห่งที่กลายเป็นปัจจัยหนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างดอลลาร์

ความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงยังคงถูกดดันจากการที่เจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่อาจส่งผลลบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดูจะเริ่มเข้าใกล้การหมดอายุ

เงินหยวนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์ หลังจากที่ปรับแข็งค่ามาตลอดช่วง 2 วันทำการ หลังจากที่จีนกำหนดค่ากลางเงินหยวนเป็นระดับอ่อนค่ากว่าที่คาด

ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 107.58 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่วานนี้ปรับแข็งค่าขึ้น 0.3%

ค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.1278 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินปอนด์ทรงตัวที่ 1.2554 ดอลลาร์/ปอนด์ โดยเงินปอนด์ยังคงอยู่ใกล้กับระดับสูงสุด ในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ โดยเหล่าเทรดเดอร์รอถ้อยแถลงของรัฐมนตรีการคลังอังกฤษในวันนี้ว่าจะมีทิศทางการดำเนินนโยบายอย่างไรจากการลดการจ้างงานจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

เหล่าเทรดเดอร์บางราย กล่าวเตือนว่า ค่าเงินดอลลาร์อาจ Breakout จากรอบเมื่อเทียบเงินเยนได้ จากสัญญา Option ที่จะหมดอายุในระหว่างนี้

ค่าเงินหยวนอ่อนค่า 7.0200 หยวน/ดอลลาร์ หลังจากที่ไปทำแข็งค่ามากที่สุดรอบ 4 เดือนวานนี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับธนาคารกลางจีนที่พยายามจำกัดการแข็งค่าของหยวน

อย่างไรก็ดี ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แม้ว่าการขยายตัวจะเป็นไปอย่างลำบาก แต่ยังมีแรงหนุนจากอุปสงค์การส่งออกอยู่บ้าง


· จำนวนยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาสหรัฐฯพุ่งทะลุ 3 ล้านราย

จำนวนยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทะลุ 3 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อย โดยที่รัฐฟลอริดาเริ่มประสบภาวะขาดแคลนการเตียงผู้ป่วย จากจำนวนยอดผู้ติดชื้อรายวันที่เพิ่มมากขึ้นอีกกว่า 12 รัฐในช่วง 2 สัปดาห์ ท่ามกลางความพยายามที่จะสกัดการระบาดของไวรัสในหลายๆพื้นที่ที่ยังดูล้มเหลว

รัฐแคลิฟอร์เนีย, ฮาวาย, ไอดาโฮ, มิสซูรี, มอนตานา, โอกลาโฮมา และเท็กซัส ต่างก็มียอดติดเชื้อใหม่รายวันทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในเท็กซัสและแคลิฟอร์เนีย ถือเป็น 2 เมืองใหญ่ของสหรัฐฯที่มียอดผู้ติดเชื้อทะลุ 10,000 ราย โดยรายงาน 24 รัฐ ต่างมีอัตราผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระดับสูงตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะที่รัฐเท็กซัสเป็นหนึ่งรัฐที่ผู้ป่วยในโรงพยาบาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในช่วง 2 สัปดาห์


· WHO ตระหนักถึงหลักฐานใหม่ของการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในอากาศ

องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ตระหนักถึงหลักฐานการระบาดทางอากาศของเชื้อไวรัสโคโรนา หลังจากที่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ต่างเรียกร้องให้องค์กรมีการอัพเดตคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการที่เชื้อโรคสามารถแพร่กระจายจากระบบทางเดือนหายใจจากคนสู่คน


· INSEE ชี้ เศรษฐกิจฝรั่งเศสอาจรีบาวน์ได้ 19% ช่วงไตรมาสที่ 3 และรีบาวน์ได้ 3% ในไตรมาส 4

เศรษฐกิจฝรั่งเศสดูจะรีบาวน์กลับได้ในช่วงครึ่งหลังของปี หลังจากที่ดิ่งงอย่างหนักในช่วงครึ่งปีแรก ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนา ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจคาดจะหดตัวลงอยู่ในช่วงไตรมาสที่ 2 อีกประมาณ -17% เมื่อเทียบกับช่วง 3 เดือนก่อนหน้า เท่ากับคาดการณ์ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่ไตรมาสแรกเศรษฐกิจหดตัวไป -5.3%

ทั้งนี้ เศรษฐกิจฝรั่งเศสถูกคาดว่าจะรีบาวน์ได้ 19% ในช่วงไตรมาสที่ 3 และคาดว่าจะรีบาวน์ได้ 3% ในไตรมาสที่ 4 สำหรับภาพรวมปีนี้คาดเศรษฐกิจฝรั่งเศสจะหดตัวมากถึง -9% ซึ่งถือเป็นระดับหดตัวลงที่มากที่สุดตั้งแต่ยุคภาวะถดถอย และตั้งแต่ที่เคยเก็บบันทึกข้อมูลมาตั้งแต่ปี 1948 โดยองค์รวมอาจไม่แย่เท่าที่ภาครัฐปรับคาดการณ์จีดีพีไว้ที่ -11% ในการปรับทบทวนงบประมาณปีนี้เมื่อครั้งล่าสุด


· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ท่ามกลางสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯสร้างความกังวลเกี่ยวกับอุปทานในตลาด

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังจากที่ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานส่วนเกิน อย่างไรก็ดี ความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจีนช่วยจำกัดการปรับลดลงของราคาอยู่

น้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 11 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.3% ที่ระดับ 42.97 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ลดลง 11 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.3% ที่ระดับ 40.51 เหรียญ/บาร์เรล

นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ตลาดเคลื่อนไหวแบบผสมสานจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน จึงช่วยชดเชยความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯและที่อื่นๆ ซึ่งอาจจะกดดันปริมาณความต้องการเชื้อเพลิง

พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า น้ำมัน WTI จะเคลื่อนไหวแถวระดับ 37-44 เหรียญ/บาร์เรล ในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้านี้

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com