• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 7 กรกฎาคม 2563

    7 กรกฎาคม 2563 | Economic News
  

· ดอลลาร์อ่อนค่ากังวลการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปชั่วคราว

ดอลลาร์อ่อนค่าลง ขณะที่ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยดอลลาร์ยังคงทรงตัวใกล้ระดับอ่อนค่ามากสุดรอบ 2 สัปดาห์ ด้านหยวนอ่อนค่าตามตลาดหุ้นที่ตอบรับทิศทางเศรษฐกิจจีน โดยหยวนแข็งค่า Break 7 หยวน/ดอลลาร์ลงมา

ค่าเงินกีวีของนิวซีแลนด์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.3% ทำสูงสุดรอบ 1 เดือนที่ 0.6580 ดอลลาร์/กีวี หลังทดสอบ 0.6585 ดอลลาร์/กีวี


· อียูหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจยูโรโซน -8.3% ปีนี้

คณะกรรมาธิการอียูหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจยูโรโซนปีนี้และปีหน้า โดยคาดได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา พร้อมคาดปีนี้จะหดตัวลงไปประมาณ -8.3% และจะรีบาวน์กลับได้ในปีหน้าที่ 5.8%

ขณะที่คาดการณ์ในเดือนพ.ค. คณะกรรมาธิการอียูมองว่าเศรษฐกิจจะหดตัวปีนี้ที่ -7.4% และจะรีบาวน์ปีหน้าได้มากกว่าที่ 6.1%

แนวโน้มทางเศรษฐกิจค่อนข้างแย่กว่าคาดการณ์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่เดือนที่แล้วจะเห็นได้ว่าไอเอ็มเอฟเองก็มีการหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวลงมา -10% ปีนี้ โดยคาดฝรั่งเศส, อิตาลี และสเปน ที่อาจหดตัวได้มากประมาณ -12% ปีนี้

· CORONAVIRUS UPDATES:



-ออสเตรเลียสั่งปิดพมแดนระหว่าง 2 ประเทศที่มีประชากรหนาแน่นทางฝั่ง New South Wales และ Victoria ด้วยการปิดถนนกว่า 55 เส้นที่มีการเชื่อต่อติดต่อกัน, สถานศึกษา และการขนส่ง และนี่จะถือเป็นการปิดเส้นทางนี้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 100 ปี ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นในเมลเบิร์น


-นิวสัน เรียกร้องให้ภาคธุรกิจแบบอินดอร์ปิดทำการต่อจากยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น

นายกวิน นิวสัน ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เรียกร้องให้ 6 พื้นที่มีการปิดธุรกิจอินดอร์เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มร้านอาหาร, โรงภาพยนตร์, พิพิธภัณฑ์ และอื่นๆ จากจำนวนยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาและภาคโรงพยาบาลที่มียอดเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ 23 รัฐในสหรัฐฯ ต่างก็อยู่ในสถานการณ์เฝ้าระวัง ไม่ว่าจะเป็นรัฐแคลิฟอร์เนียที่มีจำนวนประชากรในพื้นที่มากที่สุด ทั้งส่วนเมืองลอส แอนเจลิส, ออแรงค์ และซาน เบอร์นาดิโน ขณะที่ ซาน ดิเอโก้ เป็นหนึ่งใน 6 เมืองที่ถูกเพิ่มชื่อล่าสุดวานนี้

อย่างไรก็ดี เปอร์เซ็นผลทดสอบประชากรส่วนใหญ่ที่มีผลเลือดเป็นบวกอยู่ระหว่าง 4.9% ถึง 6.8% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรายงงานจากตามโรงพยาบาลพบผู้ติดเชื้อ 5,790 ราย หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นมากถึง 50% ในช่วงเวลา 2 สัปดาห์

-ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มกระทบนักช้อป

ข้อมูลจาก ShopperTrak ระบุว่า จะเห็นได้ว่าจำนวนยอดค้าปลีกที่เริ่มมีการรีบาวน์กลับจากรดับต่ำสุด แต่แล้วกลุ่มผู้บริโภคล่าสุดก็มีการปรับลดลงมาอีกครั้ง หรือลดลงประมาณ 82.6% หลังจากที่เพิ่มขึ้นมาตลอดช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้า จากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาครั้งใหม่ที่เพิ่มขึ้น ประกอบด้วย รัฐฟลอริดา และเท็กซัส จึงทำให้เราเห็นการปรับตัวดังกล่าวเป็นไปอย่างรวดเร็วอีกครั้งหนึ่ง และทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

Ø อัตราแรงงานนอกระบบผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่

แรงงาน, อาชีพธุรกิจส่วนตัว และแรงงานนอกระบบต่างก็พบว่ามีการขอรับสวัสดิการคนว่างงานเพิ่มขึ้น โดยชาวอเมริกาเกือบ 13 ล้านรายได้รับการช่วยเหลือในช่วงการระบาดของไวรัสโคโรนาผ่านทางโปรแกรม Unemployment Assistance ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิ.ย.

และภาพรวมกว่า 41% ของคนว่างงานโดยรวมทั่วประเทศ แต่ก็ยังคงเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 1 ในสามของเดือนก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี โครงการ PUA สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาผลกระทบของไวรัสโคโรนาตั้งแต่เดือนมี.ค. พร้อมกับขยายสิทธิประโยชน์ให้แก่กลุ่มแรงงานที่ไม่ได้รับความเชื่อเหลือในช่วงเวลาปกตินั่นเอง


· ธนาคารกลางออสเตรเลียคงดอกเบี้ยต่ำเป็นประวัติการณ์ และจับตาเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยการตัดสินใจดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ แม้ว่าออสเตรเลียมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนารอบสอง ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ

· จีนเข้มงวดต่อฮ่องกงเพื่อปูทางสำหรับเม็ดเงินสู่ประเทศ

จีนปูทางสำหรับการเพิ่มขึ้นของเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดฮ่องกง ที่มีสถานะเป็นศูนย์กลางทางการเงินโลก โดยกลุ่มนักลงทุนและบริษัทต่าง่ชาติอาจคลายกังวลต่อสถานะฮ่องกงจากฎหมายจีนล่าสุด ที่ส่งผลให้สหรัฐฯมีการยกเลิกสถานะการค้าพิเศษกับทางฮ่องกง

เนื่องจากล่าสุดธนาคารลางจีนในสัปดาห์ที่แล้วมีการปล่อยมาตรการ Wealth Management Connect ที่ทำให้นักวิเคราะห์หลายรายต่างคิดว่าจะเป็นมาตรการที่นำเม็ดเงินลงทุนกลับสู่ฮ่องกงได้อย่างมาก และถือเป็นมาตรการที่น่าสนใจสำหรับสถาบันการเงินจากต่างชาติในการขยายธุรกิจของพวกเขาในฮ่องกงนั่นเอง

นอกจากนี้ บรรดาผู้กำหนดนโยบายทางการเงินต่างก็พยายามสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนว่าสถานะของฮ่องกงจะยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินต่อไปอยู่

· สหรัฐฯพิจารณาแบน TikTok และแอพลิเคชันโซเชียลมีเดียจีน

นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯกำลังพิจารณาการแบนแอพลิเคชัน TikTok รวมถึงแอพลิเคชันอื่นๆของจีน

ถ้อยแถลงดังกล่าวยิ่งตอกย้ำถึงความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนเกี่ยวกับกรณีบริษัทเทคโนโลยีที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง

· ยอดผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเยอรมนีรีบาวน์ ส่งสัญญาณการฟื้นตัวหลัง Lockdown

ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพ.ค. โดยปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 7.8% หลังจากที่ร่วงลงไป -17.5% ในเดือนเม.ย. และข้อมูลล่าสุดนี้สะท้อนถึงภาวการณ์ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังเผชิญ Lockdown

อย่างไรก็ดี แม้จะเห็นการฟื้นตัวในภาคการผลิต แต่ข้อมูลก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนเกิดวิกฤตไวรัสโคโรนา


· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลลบต่อแนวโน้มความต้องการใช้เชื้อเพลิง

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะกดดันการฟื้นตัวของความต้องการเชื้อเพลิง

โดยน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 54 เซนต์ หรือคิดเป็น 1.3% ที่ระดับ 40.09 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมัน Brent ลดลง 56 เซนต์ หรือคิดเป็น 1.3% เช่นรเดียวกัน ที่ระดับ 42.54 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากขึ้นไปแตะระดับสูงสุดรายวันที่บริเวณ 43.19 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ รายงานจากสำนักข่าวReuters ระบุว่า 16 รัฐในสหรัฐฯ รายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำสถิติยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 5 วันแรกของเดือนก.ค. จึงเพิ่มความกังวลว่ามาตรการด้านสาธารณสุขเพื่อจำกัด การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสจะลดความต้องการเชื้อเพลิง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com