MTS Help Center

· ดอลลาร์อ่อนค่าลงจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อวานนี้ท่ามกลางการแกว่งตัวขึ้นและลงได้ตลอดวัน โดยตลาดตอบรับข่าวถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดต่างๆ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระดับสูงของประเทศที่คาดอาจเห็นผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มมากขึ้น

เมื่อคืนนี้ นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ในช่วงการกล่าวแถลงการณ์ต่อคณะกรรมาธิการกำกับดูแลภาคการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ พวกเขาทั้ง 2 ยังคงแสดงจุดยืนและความตั้งใจที่จะดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจจากวิกฤตไวรัสในครั้งนี้

โดย นายมนูชิน จะทำงานร่วมกับทางสภาล่างและสภาสูงเพื่อให้ผ่านแผนเยียวยาเพิ่มเติมภายในช่วงสิ้นเดือนก.ค. นี้ ขณะที่ประธานเฟดดูจะยังตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำเอาไว้ก่อนภายในโครงการ Main Street Lending Program ในอนาคต

ดร. แอนโธนี ฟาวซี ประธานสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวย้ำถึงต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาว่ายังมีความเสี่ยงที่จะเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นหากยังไม่มีวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงไปแตะ 97.38 จุดและไตรมาสนี้เราได้เห็นดอลลาร์อ่อนค่าลงมา 1.6% ขณะที่ภาพรวมเดือนมิ.ย. ทิศทางดอลลาร์อ่อนค่าลงประมาณ 1% ถือเป็นเดือนที่ย่ำแย่มากที่สุดของดอลลาร์ตั้งแต่เดือนธ.ค.

หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Bannockburn Forex กล่าวว่า ดอลลาร์เคลื่อนไหวในทิศทางสะสมพลังเวลานี้ โดยดอลลาร์มีการปรับตัวขึ้นมาจริงๆตั้งแต่ 10 มิ.ย. และการปรับฐานเวลานี้ดูจะทำให้เราอาจเห็นดอลลาร์ปรับขึ้นต่อได้ แต่ในเดืนอนก.ค. ก็ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่ ทั้งนโยบาย PPP (Payroll Protection Program) และข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ประกอบกับตลาดยังมีความกังวลเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนาที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น

องค์การอนามัยโลก ชี้ สหรัฐฯมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้น 46% ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อ 28 มิ.ย. เมื่อทำการเปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อน โดยมีรายงานจาก 21 รัฐในสหรัฐฯที่พบการตรวจหาเชื้อเป็นเลือดบวกสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกคำนึงไว้

ค่าเงินเยนอ่อนค่าขึ้น 0.3% ที่ 107.93 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.12134 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ตลอดช่วงไตรมาสที่ 2/2020 จะเห็นได้ว่ายูโรเริ่มกลับมามีทิศทางแข็งค่าหลังจากที่ร่วงลงไปในช่วงไตรมาสแรกของปี สำหรับภาพรวมเดือนมิ.ย .ค่าเงินยูโรนั้นปรับแข็งค่ามาได้ 0.9%

บรรดาเทรดเดอร์เชื่อว่าแนว 1.1200 ดอลลาร์/ปอนด์ หากหลุดลงมามีโอกาสเห็นยูโรกลับเป็นขาลง

ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.2% ที่ 1.2328 ดอลลาร์/ปอนด์ โดยเงินปอนด์ถูกกดดันจากข้อมูลจีดีพีอังกฤษที่หดตัวลง -2.2% ในช่วงไตรมาสแรกของปี ซึ่งถือเป็นระดับที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่ปี 1979 จากภาคครัวเรือนที่มีการปรับลดค่าใช้จ่าย

· ดร.แอนโธนี ฟาวซี คาดสหรัฐฯจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหนักแตะ 100,000 ราย/วันได้

ดร.แอนโธนี ฟาวซี ที่ปรึกษาด้านสุขภาพระดับสูงของทำเนียบขาว กล่าวว่า สหรัฐฯไม่สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาได้ทั้งหมด และจำนวนยอดผู้ติดเชื้อรายวันมีโอกาสเห็น 100,000 ราย/วัน หากแนวโน้มการระบาดยังคงเป็นไปในรูปแบบปัจจุบันนี้ โดยไม่สามารถคะเนได้ถึงผลลัพธ์ แต่จำนวนรายงานผู้ติดเชื้อในแต่ละวันจะเห็นว่าผ่านระดับพีคตั้งแต่เดือนเม.ย.ไปแล้ว

· รัฐเท็กซัสรายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ และมีการขยายเวลาระงับการผ่าตัดทางเลือกออกไปก่อน

รายงานผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯพบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้น 6,900 รายวานนี้ และทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมในรัฐเท็กซัสอยู่ราวๆ 160,000 ราย

· ยุโรปทยอยเปิดพรมแดน แต่สหรัฐฯยังคงถูกห้ามการเดินทางเข้าประเทศแถบยุโรป

อียูจะเริ่มต้นเปิดประเทศในวันนี้ และจะให้ 15 ประเทศที่ถูกรับรองสามารถเข้าเดินทางได้ ยกเว้นประเทศสหรัฐฯและการตัดสินใจดังกล่าวขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้านสุขภาพเป็นสำคัญของแต่ละประเทศ โดยทางยุโรปจะมีการปรับทบทวนในเรื่องดังกล่าวๆทุกๆ 2 สัปดาห์

· ราคาน้ำมันดิบร่วง 1% กังวลอุปสงค์ แต่ภาพรวมไตรมาสที่ผ่านมาถือว่าดีที่สุดในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวดลงเมื่อคืนนี้ จากความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาและการที่ลิเบียกลับมาทำการผลิตน้ำมัน โดยน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนก.ย.ปิด -0.3% ที่ระดับ 41.7 เหรียญ/บาร์เรล

น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับลง 1.08% หรือ 43 เซนต์ ที่ระดับ 39.27 เหรียญ/บาร์เรล

การติดเชื้อไวรัสโคโรนายังคงเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะทางตอนใต้และตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ขณะที่ทางตะวันตกเฉียงเหนืออย่างรัฐนิวยอร์กและนิวเจอร์ซี เพิ่มมาตรการป้องกันสองเท่าจากกลุ่ที่เดินทางมาจึงต้องมีการกักกันตัวเองอย่างเข้มงวด