• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 31 มีนาคม 2563

    31 มีนาคม 2563 | SET News

· ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับขึ้นได้เล็กน้อยหลังจากที่ช่วงเช้าปรับขึ้นได้อย่างแข็งแก่รง ควบคู่กับดัชนี S&P500 และ Nasdaq ฟิวเจอร์สที่ปรับขึ้นตามเช่นกัน ตามการปิดบวกของดัชนีหลักของสหรับฯ ประกอบกับรายงานการผลิตที่ดีขึ้นเกินคาดในเดือนมี.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส และ S&P500 ฟิวเจอร์ส ต่างปรับขึ้น +0.1% ในขณะที่ดัชนี Nasdaq 100 ฟิวเจอร์สปรับขึ้น 0.2% หลังจากที่ PMI จีนออกมาดีขึ้นเกินคาดแตะ 52 จุด จากคาดการณ์ที่ 45 จุด

ขณะท่ี่รายงานจาก Worldometer เผยถึงการที่สหรัฐฯมียอดติดเชื้อพุ่งเหนือ 164,000 รายเป็นที่เรียบร้อย ประกอบกับนิวยอร์กกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัสในสหรัฐฯ ซึ่งมียอดติดเชื้อสูงสุดแตะ 66,000 ราย หรือคิดเป็น 41% ของยอดผู้ติดเชื้อในประเทศทั้งหมด

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง เนื่องจากข้อมูลการผลิตของจีนแสดงความหวังว่าจะมีการฟื้นฟู แม้ว่าภาคการผลิตทั่วโลกจะปิดตัวลง

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 52 จากระดับ 35.7 ในเดือนก.พ.

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.94% แต่ภาพรวมรายไตรมาสยังคงปรับตัวลดลง 22% ซึ่งเป็นระดับที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 ที่ผ่านมา

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการที่ญี่ปุ่นอาจเข้าสู่ภาวะการปิดประเทศเป็นครั้งแรกเนื่องจากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสทั่วโลกที่ยังไม่แสดงสัญญาณของการลดลง

ดัชนี Nikkei ลดลง 0.9% ที่ระดับ 18,917.01 จุด โดยเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 19,000 จุด ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของการซื้อหุ้นจำนวนมากของบีโอเจตั้งแต่ปี 2013 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ภาพรวมรายเดือนดัชนีปรับลดลง 10.5% ซึ่งเป็นเดือนที่ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2010 และลดลง 20.0% เมื่อเทียบเป็นรายปีนับเป็นไตรมาสที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2008

· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น หลังจากรายงานภาคการผลิตออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจของการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาไวรัสที่ทำให้ตลาดในไตรมาสนี้แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018

โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.1% ที่ระดับ 2,750.30 จุด

· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ตามการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นเอเชีย หลังจากข้อมูลภาคการผลิตของจีนประจำเดือนมี.ค.ออกมาดีกว่าที่คาด

โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 1.74% ด้านหุ้นการท่องเที่ยวปรับตัวสูงขึ้น 4.7% เนื่องจากตลาดหุ้นภูมอภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก

อ้างอิงจากจากสำนักข่าวอีไฟแนนว์ไทย

- ก.ล.ต.อนุมัติ SSF (พิเศษ) 17 กองทุน เน้นลงทุนในหุ้น ด้าน 13 บลจ.เตรียมเปิดขาย 1 เม.ย.นี้ หวังได้เม็ดเงินราว 6 หมื่นลบ. ช่วยประคอง SET ด้านคลังจ่อออกมาตรการเยียวยาโควิด-19 เฟส 3 คาดมีวงเงินประมาณ 4 แสนลบ. ปัดข่าวถังแตก ยืนยันการคลังไทยเข้มแข็ง ไม่จำเป็นต้องพึ่งเงินกู้ IMF

ในที่สุด ก็คลอดออกมาแล้ว สำหรับกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ที่มีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนใตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)ไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ เรียกให้เข้าใจง่ายๆว่า SSF(พิเศษ) หรือ SSFX

ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไป สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุน SSF(พิเศษ) ได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 200,000 บาท โดยแยกจากวงเงินหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน SSF กรณีปกติ และไม่อยู่ภายใต้เพดานวงเงินหักลดหย่อนรวมในกองทุนเพื่อการเกษียณทั้งหมด

แต่ต้องซื้อระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี

อนึ่ง SSF (พิเศษ) เป็นหนึ่งในมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโคโรนาต่อเศรษฐกิจไทย เฟส 1 ซึ่งจะช่วยเหลือประชาชนในทางอ้อม ด้วยการเพิ่มสิทธิในการหักลดหย่อนภาษี

อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ

- ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 31 มี.ค. ซึ่งเดิม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี ขออนุมัติให้กองทัพเรือดำเนินการโครงการจัดหาเรืออเนกประสงค์ ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำระยะที่ 1 จำนวน 1 ลำ

ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 6,100 ล้านบาท แต่ปรากฏว่า พล.อ.ชัยชาญ ขอถอนเรื่องดังกล่าวออกจากวาระการพิจารณา หลังจากถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากในช่วงนี้กำลังเผชิญการระบาดของโควิด-19 ซึ่งยังต้องใช้งบประมาณอีกจำนวนมากในการแก้ปัญหา

- เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 63 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าว สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันนี้ ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 127 ราย รวมยอดสะสม 1,651 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว 10 ราย โดยเคสผู้ป่วยที่เสียชีวิตใหม่ 1 ราย เป็นชายไทยและมีโรคประจำตัว คือ เบาหวานร่วมด้วย ทั้งนี้ ผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมดมีสัญชาติไทย 1,407 ราย สัญชาติอื่น ๆ 244 ราย จำนวนผู้ป่วยจำแนกตามพื้นที่ กรุงเทพฯ-นนทบุรี 869 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 77 ราย ภาคเหนือ 55 ราย ภาคกลาง 172 ราย ภาคใต้ 206 ราย

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com