• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 23 มีนาคม 2563

    23 มีนาคม 2563 | SET News

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง เนื่องจากกระแสการประกาศปิดประเทศกันมากขึ้นและการที่บรรดารัฐบาลต่างๆเริ่มกังวลว่าเศรษฐกิจโลกกำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นลดลง 3.8% ด้านตลาดหุ้นนิวซีแลนด์ลดลงทำระดับต่ำสุด 10% จากการที่รัฐบาลประกาศห้ามธุรกิจที่ไม่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันเปิดทำการ

สำหรับยอดรวมผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่มีมากกว่า 3 แสนรายและยอดผู้เสียชีวิตมากมากกว่า 14,000 ราย

ด้านสายการบินยกเลิกเที่ยวบินมากขึ้นเนื่องจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ไม่แนะนำให้เดินทางภายในประเทศที่ไม่จำเป็น ขณะที่สหรัฐฯอาหรับเอมิเรตส์หยุดเที่ยวบินเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ทางด้านสิงคโปร์และไต้หวันห้ามผู้โดยสารต่อเที่ยวบินระหว่างประเทศ

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นรีบาวน์อย่างแข็งแกร่งในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการจัดงานโอลิมปิกที่อาจจะไม่ถูกยกเลิก หลังจากที่หลังจากที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเลื่อนการจัดงานเป็นครั้งแรก

ความคาดหวังของการเลื่อนจากจัดงานโอลิมปิกของญี่ปุ่นออกไปแทนการยกเลิกนั้นได้ช่วยหนุนหุ้นญี่ปุ่น ขณะที่ตลาดในภูมิภาคทรุดตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยเนื่องจากมีหลายประเทศทั่วโลกที่ใช้ม

มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนา

ขณะที่ความคาดหวังว่าบีโอเจจะทำการเข้าซื้อกองทุน ETFs และกองทุนบำเหน็จบำนาญมากขึ้น เพื่อช่วยปรับสมดุลของตลาด ได้หนุนความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นวันนี้

โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้นประมาณ 2.0% ที่ระดับ 16,887.78 จุด หฃังจากร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 3ปีครึ่ง ที่บริเวณ 16,378.94 จุด เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ภาพรวมของความเชื่อมั่นยังคงเปราะบางเนื่องจาก ดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นเอเชียทรุดตัวลงเนื่องจากกระแสการประกาศปิดประเทศกันมากขึ้นและการที่บรรดารัฐบาลต่างๆเริ่มกังวลว่าเศรษฐกิจโลกกำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี เนื่องจากการประกาศปิดประเทศและการเดินทางเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่ทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 3.1% ที่ระดับ 2,660.17 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแแต่วันที่ 11 ก.พ. 19 ที่ผ่านมา

· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวลดลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่มีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อภาพรวมทั่วโลก รวมทั้งตลาดการเงิน โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 4.5% ด้านหุ้นอุตสาหกรรมลดลง 6% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแเดนลบ

· อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธรุกิจ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 มีนาคม2563 นายแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19ว่า มีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ เพิ่ม122 ราย รวมผู้ป่วยสะสม721 ราย

แบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้ กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 20 ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวย 4 ราย เป็นพี่เลี้ยงนักมวย ผู้ชมเคยไปค่ายมวย สนามมวยพบผู้ป่วยที่จังหวัดนนทบุรี นครปฐม อุบลราชธานี และกลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 16 ราย สัมผัสกับผู้ป่วยจากการไปสังสรรค์ ทำงานกับชาวต่างชาติ นั่งรถคันเดียวกัน ร่วมประชุม กินข้าว อาชีพพนักงานส่งของ พนักงานบริษัท นักเรียน พนักงานนวด ญาติผู้ใหญ่ พบผู้ป่วยที่จังหวัดกรุงเทพฯ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

บริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) แห่ขายหุ้นกู้-เพิ่มทุน มูลค่ารวมกว่าแสนล้านบาท นำเงินคืนหนี้-เตรียมสภาพคล่องรับมือผลกระทบโควิด-19 พบหุ้นกู้ไร้เรทติ้งเพียบ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 4.5% สูงสุด 7.25% แถมมี บจ.ประกาศเพิ่มทุนถึง 27 แห่ง สูงสุดรอบ 4 ปี ส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดกลาง-เล็

"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจข้อมูลจาก สมาคมตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) พบว่า ตั้งแต่ต้นปี-ปัจจุบันมี บจ.เสนอขายหุ้นกู้รวมทั้งสิ้น 30 บริษัท มูลค่ารวมกว่า 9.45 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่นำเงินไปคืนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนดในปีนี้ ขณะที่บางส่วนนำเงินไปชำระหนี้สถาบันการเงิน และใช้ลงทุนหรือเป็นทุนหมุนเวียนในธุรกิจ

"อริยา ติรณะประกิจ" รองกรรมการ ผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ระบุว่า บจ.ทยอยเสนอขายหุ้นกู้มากขึ้น เนื่องดอกเบี้ยอยู่ในภาวะขาลง ทำให้มีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ เพื่อเตรียมทุนหมุนเวียนเพิ่มสภาพคล่องรองรับธุรกิจที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ขณะเดียวกันปีนี้มีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดจำนวนมาก ทั้งระบบประมาณ 6.6 แสนล้านบาท หลายบริษัทจึงมีการออกหุ้นกู้ชุดเพื่อรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ชุดเดิม

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- 3 หน่วยงานเศรษฐกิจ "แบงก์ชาติ-คลัง-ก.ล.ต." แถลงด่วน 3 มาตรการอัดสภาพคล่อง สกัดนักลงทุนแห่ไถ่ถอน พร้อมระดมแสนล้าน ตั้งกองทุนเพิ่มสภาพคล่องต่ออายุตราสารหนี้เอกชนคุณภาพดี จากเดิมที่เข้าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลแล้วกว่าแสนบ้านบาท วันนี้ (23 มี.ค.) เข้าบอร์ดพิจารณาอนุมัติมาตรการ และมีผลดำเนินการได้วันอังคารที่ 24 มี.ค. ทันที

- ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยมาตรการลดผลกระทบจากโควิด-19 ว่า ธปท.มีแผนที่จะช่วยบรรเทาปัญหาสภาพคล่องในตลาดการเงิน เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ โดยที่ผ่านมาเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลกว่าหนึ่งแสนล้านบาทในช่วงวันที่ 13-20 มีนาคม 2563 พร้อมยกเลิกการออกพันธบัตรของธปท.

- รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีลูกหนี้เข้ามาขอปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1,000 ราย ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย และผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีสัญญาณเริ่มลดกำลังการผลิตสินค้า ยังทำให้ความต้องการสินเชื่อลดลงด้วย โดยธนาคารได้มีมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ แก่ลูกหนี้ทั้งกลุ่มบุคคล ที่อยู่อาศัย บัตรเครดิต หรือภาคธุรกิจที่เลื่อนชำระหนี้สูงสุดถึง 1 ปี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและป้องกันการเกิดหนี้เสียในระบบ

- ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ททท.ได้รับการแจ้งอย่างไม่เป็นทางการจากนายวิชิตประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือแอตต้า ซึ่งได้แจ้งข่าวดีว่า ล่าสุดสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวในประเทศจีน เริ่มกลับมาปรับตัวดีขึ้นหลังรัฐบาลจีนประกาศให้ชาวจีนสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้แล้ว โดยเริ่มต้นจากการท่องเที่ยวภายในมณฑลก่อน คือมณฑลเจ้อเจียง และมณฑลเจียงซู และคาดว่า ภายในเดือนเม.ย.นี้ จะเปิดให้ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวได้ทั่วประเทศ

อ้างอิงจากประชาชาติธุรกิจ

- นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นเช้าวันที่ 23 มี.ค.63 ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) เปิดตลาดที่ 1,127.24 จุด ก่อนจะปรับลดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,042.79 จุด ลดลง 84.45 จุด หรือลดลง 7.49% โดยชี้ว่าเป็นการปรับลดลงตามตลาดหุ้นภูมิภาคและทั่วโลกที่ได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

ด้านปัจจัยแวดล้อม ได้แก่ การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงฉุกเฉินนอกการประชุม 0.25% มาอยู่ที่ 0.75% ซึ่งจะมีผลในวันที่ 23 มี.ค.นี้ เชื่อว่าจะส่งผลกดดันการเคลื่อนไหวของดัชนีในระยะสั้น ขณะที่การประชุม กนง.ในวันที่ 25 มี.ค.คาดการณ์ว่าจะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ซึ่งหากเป็นไปตามที่ประเมินเอาไว้เชื่อว่าจะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้น

ในส่วนของการประกาศมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องช่วยเหลือตลาดทุนมูลค่ารวม 1 ล้านล้านบาทเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (22 มี.ค.) มองว่าระยะสั้นตลาดหุ้นจะตอบรับในเชิงลบ เนื่องจากนักลงทุนอาจกังวลถึงสถานการณ์ความเสี่ยงที่เลวร้ายจนถึงขั้นที่ต้องออกมาตรการช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวเชื่อว่ามาตรการช่วยเหลือดังกล่าวจะส่งผลบวกต่อตลาดทุน

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com